โดยการสั่งการของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร.ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ TICAC ทำการสืบสวนจับกุมผู้ใช้ชื่อทวิตเตอร์ “ขุนกร” หรือ “ขุนศรีวิกรกามา” ที่มีพฤติการณ์ล่อลวงเหยื่อผู้หญิงและเด็กหญิงมามีเพศสัมพันธ์ด้วย พร้อมทั้งหลอกล่อให้เปิด Live สดผ่านกลุ่มลับ ที่เรียกเก็บเงินค่าสมาชิก แล้วจึงนำคลิปวีดิโอที่ได้ไปขายต่อในกลุ่มลับอื่น ๆ อีก ซึ่งพบว่ามีเหยื่อเป็นจำนวนมาก
ชุดปฏิบัติ TICAC ได้ดำเนินการสืบสวนทางเทคนิค จนเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธีระวุฒิหรืออ๊อฟ สมแคล้ว อายุ 27 ปี ผู้กระทำความผิดที่ได้ใช้ทวิตเตอร์ว่า “ขุนศรีวิกรกามา” มีผู้ติดตามกว่า 25,000 คน เก็บค่าสมาชิกรายละ 300 บาท ในความผิดฐาน ครอบครอง ค้าหรือประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก (ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ระวางโทษจำคุก 3 ถึง 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ) โดยมีการตรวจยึดสื่อลามกอนาจารทั้งเด็กและผู้ใหญ่จำนวนมาก (ประมาณ 800 กิกะไบท์) ที่ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดี ซึ่งจะได้ทำการอายัดเงินในบัญชีที่ได้มาจากการกระทำความผิดต่อไป
เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ TICAC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(สน.วังทองหลาง, บก.ปคม.) ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญา เข้าค้นห้องพักของ นายธนาวุฒิ หรือโน้ต ปาวรีย์ อายุ 30 ปี ขุนกรตัวจริง มีผู้ติดตามทวิตเตอร์กว่า 50,000 คน เก็บค่าสมาชิกไลฟ์สด และกลุ่มไลน์ รายละ 300 บาท ได้ที่ห้องพัก โดยนายธนาวุฒิ ให้รับสารภาพชั้นจับกุมว่าได้กระทำผิดจริง ดำเนินคดีข้อหา ครอบครอง ค้าหรือประสงค์แห่งการค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก (ความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ระวางโทษจำคุก 3 ถึง 10 ปี ปรับ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ) และได้พบสื่อลามกที่นายธนาวุฒิ เป็นผู้ผลิตเองและกลุ่มลับที่ใช้เผยแพร่สื่อลามกเป็นจำนวนมาก ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และเครือข่าย NGOs ว่าผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่
โดยตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี โดยเฉพาะการละเมิดผ่านช่องทางออนไน์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผบ.ตร. ได้แต่งตั้งคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ภายใต้การควบคุมสั่งการของ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ขึ้น เพื่อให้เป็นหน่วยงานที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญพิเศษในการสืบสวน สอบสวนทางเทคนิค และทำงานโดยยึดหลักการเอาเด็กและผู้เสียหายเป็นศูนย์กลาง กับภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจากการทำงานที่ผ่านมาพบว่าปัญหาการละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์ มีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อเหยื่อและครอบครัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อถูกล่อลวงให้เกิดเป็นสื่อลามกและหลุดเข้าไปในโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว จะไม่สามารถเอาออกได้อีกเลย ทำให้เหยื่อส่วนใหญ่มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้าและมีโอกาสฆ่าตัวตายสูง ชุดปฏิบัติการ TICAC จึงได้พยายามอย่างยิ่งในการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดแต่ปัจจุบันคดีเพิ่มขึ้นจำนวนมาก การจับกุมเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การป้องกันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด จึงอยากให้ผู้ปกครอง ครู ตระหนักและช่วยกันสอดส่องเด็กในปกครองในการใช้สื่อออนไลน์ไปเหมาะสม และอยากเตือนเด็กทุกคนให้ระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ