ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี,พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาเพื่อท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผบก.อก.สตม., พล.ต.ต.ชำนาญ ชำนาญเวช ผบก.ตม 5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 และ พ.ต.อ.ณัชธฤต ปิ่นปัก ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน ร่วมแถลงข่าว ดังนี้ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2562 เวลาประมาณ 15.00 น. ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน กองบังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้รับการประสานจากชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5 ว่ามีผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ จะลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ตอนกลางของประเทศไทย โดยจะใช้เส้นทางจาก อ.แม่สาย ผ่าน อ.เชียงแสน จว.เชียงราย จึงประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.5, สภ.เชียงแสน, ตชด., หน่วยทหารพรานและฝ่ายปกครอง โดยร่วมกันวางแผนตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดเพื่อตรวจค้นสกัดกั้นรถเป้าหมาย ณ บริเวณเส้นทางรอง บ้านถ่อน–บ้านป่าสักน้อย ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จว.เชียงราย จนกระทั่งเวลา ประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 6 ต.ค.2562 ได้พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน กทม.ขับมาจาก อ.แม่สาย มุ่งหน้าไปทางตู้ยามป่าสักน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้ให้สัญญาณเพื่อหยุดรถ ทำการตรวจค้น แต่รถคันดังกล่าวได้เร่งเครื่องฝ่าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ติดตามคนร้ายไปตามถนนสายบ้านป่าถ่อน–บ้านป่าสักน้อย จนมาถึงบริเวณบ้านป่าสักน้อย หมู่ที่ 3 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจยิงไปที่ล้อรถของคนร้ายเพื่อสกัดกั้นการหลบหนี จนรถยนต์ของคนร้ายได้เสียหลักไถลลงข้างทาง และคนร้ายได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเทา ตรวจสอบภายในรถพบกระสอบป่านสีรุ้ง จำนวน 11 กระสอบ บรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 3,035,200 เม็ด และไอซ์ จำนวนประมาณ 40 กก. จึงได้ร่วมกันทำการตรวจยึดรถยนต์และยาเสพติดเป็นของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จว.เชียงราย เพื่อดำเนินการตรวจสอบและทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม ต่อมาวันที่ 16 ต.ค.2562 พนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงราย เพื่อออกหมายจับ นายประสาร สัญชาติไทย อายุ 29 ปี ชาว จว.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 1276/2562 ลง16 ต.ค.2562 ในความผิดฐาน ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธแอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัมขึ้นไป และได้ส่งสำเนาหมายจับมาให้เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนติดตามจับกุมตัว ด่าน ตม.เชียงแสน ได้ประสานกับ ตม.จว.กาญจนบุรี และ สภ.ลาดหญ้า เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวนายประสาร ตามหมายจับดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2562 เวลา 15.00 น. จนท.ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าพบตัวนายประสาร มาเที่ยวกับเพื่อนอยู่ที่บริเวณศาลาชายน้ำของรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จว.กาญจนบุรี จึงได้ร่วมวางแผนและทำการจับกุมตัวนายประสาร นำตัวส่งให้กับ พงส.สภ.ลาดหญ้า เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และได้นำตัวผู้ต้องหาส่งมอบให้กับ พงส.สภ.เชียงแสน รับตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใดๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง