เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มสัก และ สภ.หล่มเก่า ร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการตั้งจุดบริการบูรณาการและจุดตรวจจุดสกัดเพื่อควบคุมการใช้รถใช้ถนนของกลุ่มรถจักรยานยนต์ทริป “น้ำไม่อาบ” ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เพื่อลดอุบัติเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง โดยผลการปฏิบัติมีการตรวจยานพาหนะรวมกว่า 1,100 คัน และออกใบสั่งเปรียบเทียบปรับรวม 22 ราย พร้อมกำชับให้ผู้ร่วมกิจกรรมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด**
*วันนี้ (22 พ.ย. 2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน พร้อมควบคุมพฤติกรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ในกิจกรรมรวมกลุ่มเดินทาง ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามทริป “น้ำไม่อาบ” ในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีรายละเอียดการปฏิบัติงานในพื้นที่อำเภอหล่มสักและหล่มเก่า ดังนี้
เวลา 07.00 น. พันตำรวจเอก ปรเมษฐ โพยนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก (ผกก.สภ.หล่มสัก) ได้มอบหมายให้ พันตำรวจโท ศิริพงษ์ ธงห้า รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม (รอง ผกก.ป. สภ.หล่มสัก) และ พันตำรวจโท วิโรจน์ ทองวัน สารวัตรป้องกันปราบปราม (สวป.สภ.หล่มสัก) ร่วมกับ ปลัดอำเภอหล่มสัก, หัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบูรณ์ สาขาหล่มสัก, ผู้แทนสาธารณสุขอำเภอ, ตำรวจทางหลวง, ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพชรบูรณ์ รวมถึง กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คณะทำงานได้ร่วมกันปล่อยแถวและชี้แจงภารกิจ ณ จุดบริการบูรณาการ บริเวณตรงข้ามคาเฟ่มะขามสารัช ถนนทางหลวงหมายเลข 12 ตำบลชุน อำเภอหล่มสัก เพื่อเตรียมรับมือกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์และการควบคุมความปลอดภัย
ผลการตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด สภ.หล่มเก่า
ในเวลาต่อมา ตั้งแต่เวลา 09.00–10.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พันตำรวจเอก ธีรศักดิ์ สารภูษิตสันต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า (ผกก.สภ.หล่มเก่า) พร้อมด้วย พันตำรวจโท วิศิษ นรมัตถ์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม (รอง ผกก.ป. สภ.หล่มเก่า) และชุดปฏิบัติการของ สภ.หล่มเก่า ได้ตั้งจุดตรวจและจุดสกัด ณ บริเวณหน้าที่ทำการสายตรวจบ้านเนิน–นาเกาะ ถนนทางหลวงหมายเลข 2372 ซึ่งเป็นเส้นทางที่คาดการณ์ว่ากลุ่มทริปฯ จะใช้เดินทาง
สรุปผลการปฏิบัติการ มีดังนี้:
- ตรวจรถยนต์: 100 คัน
- ตรวจรถจักรยานยนต์: 1,000 คัน
- ออกใบสั่งและเปรียบเทียบปรับ: 22 ราย
- ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผู้ร่วมกิจกรรมให้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
มาตรการดังกล่าวถือเป็นแนวทางป้องกันที่สำคัญตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีการรวมกลุ่มเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก
จากการปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ยังไม่พบการขับขี่ในลักษณะประมาทหวาดเสียวที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เช่น การนอนขับ หรือ การยกล้อ อย่างไรก็ตาม มีรายงานเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นกับรถของผู้ร่วมทริปฯ ซึ่งมีการนำเสนอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เหตุการณ์รถยางรั่วขณะขับขี่ และเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ประสบเหตุเพลิงไหม้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บร้ายแรง และเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าผู้ร่วมทริปส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิกแทนเขาค้อตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่านปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
