ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวใหญ่ ขับเก๋งติดแผ่นป้ายภาษีปลอม

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.บก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.อุดมศักดิ์ สุวรรณแสง รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง ชรอง ผกก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.ท.จิตติกรณ์ สัมพุทธานนท์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล., ร.ต.ต.จตุพล ด้วงช่วย รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล., ร.ต.ต.พยุงศักดิ์ ทองเกลียว รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล., ด.ต.ชัยวัช เผือกแก้ว ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. และ จ.ส.ต.สรายุทธ์ ศักดา ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นางสาวสุธาสินีฯ อายุ 40 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปี 2569 ปลอม จำนวน 1 แผ่น จับกุม บนถนน ทล.41 กม.124 ม.6 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมได้นำรถวิทยุออกตรวจเขตพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์สีขาว มีลักษณะต้องสงสัยวิ่งผ่านไป จึงทำการตรวจสอบผ่านระบบ CRIMES พบว่า หมายเลขป้ายทะเบียนรถคันดังกล่าวไม่พบในระบบ จึงให้สัญญาณให้รถจอดชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อตรวจสอบ
พบ น.ส.สุธาสินีฯ เป็นผู้ขับขี่ ก่อนการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาทราบ จนเป็นที่พอใจแล้ว จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำรถ พบว่า เครื่องหมายการเสียภาษีที่ติดบริเวณหน้ากระจกด้านซ้ายเป็นแผ่นป้ายภาษีปลอม เนื่องจากป้ายภาษีมีลักษณะสีซีด ไม่มีลายน้ำรูปมาตุลีเทพบุตรขับรถเทียมม้า ที่มองเห็นได้เมื่อมองจากมุมเฉียงหรือโดนแสงแดด และหมายเลขตัวถังของรถที่บันทึกไว้ที่แผ่นป้ายการเสียภาษีไม่ตรงกับข้อมูลบนป้ายภาษีและมีสติ๊กเกอร์วงกลมตัวอักษร ขบ ติดไว้ที่แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ซึ่งปกติจะไม่ใช้การสติ๊กเกอร์ติด จึงเชื่อได้ว่าเอกสารดังกล่าวทำปลอมขึ้นมา และนำมาติดแสดงไว้บริเวณหน้ากระจกรถคันดังกล่าว ซึ่งเกิดความเสียหายแก่นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้เข้าใจดีแล้ว จึงเชิญตัวผู้ต้องหามายังหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไชยาเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด และทำการบันทึกการจับกุมต่อไป จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางและเอกสารที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้น ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไชยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าได้ยืมรถคันดังกล่าวมาจากเพื่อนชื่อนายเชาวพัตฯ ไม่ทราบนามสกุล มีอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยเป็นเพื่อนทางเฟซบุ๊ก เพื่อเดินทางจาก จ.อยุธยา ไปเยี่ยมแฟนที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และกำลังเดินทางกลับจังหวัดอยุธยา การยืมใช้รถแต่ละครั้งจะติดต่อทางโทรศัพท์กันเป็นประจำเป็นช่วงๆ มาประมาณ 1 ปี