ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบช่างแสบลักของลูกบ้าน ถูกจับหนีหนี้ไม่ชดใช้

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร, พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ.,
พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.3 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม นายนิวัฒน์ฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 334/2568 ลงวันที่ 19 กันยายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ฯ”
สถานที่จับกุม บริเวณทางเดินภายในบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการลักทรัพย์และหลบหนีไม่ชดใช้เงินกับคู่กรณี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน พบว่า นายนิวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 334/2568 ลงวันที่ 19 กันยายน 2568 ในฐานความผิด “ลักทรัพย์ฯ” มีการปรากฏตัวอยู่ในบริเวณพื้นที่ทุ่งสองห้อง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่หาเบาะแสจนพบนายนิวัฒน์ฯ ทำงานอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมนายนิวัฒน์ฯ โดยจับกุมได้ที่ บริเวณบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งจาการสอบสวนเบื้องต้นพบพฤติการณ์ในคดีของนายนิวัฒน์ฯ มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับลักทรัพย์ เมื่อปี 2567 นายนิวัฒน์ฯ เคยเป็นช่างในคอนโดแห่งหนึ่ง ต่อมามีผู้เช่าใช้งานตู้เซฟภายในห้องพัก นำเงินใส่ไว้ในตู้เซฟ โดยผู้เช่าไม่ได้มีการแก้ไขรหัสตู้เซฟใช้รหัสเดิม แล้วตู้เซฟมีปัญหาเปิดไม่ได้ ผู้เช่าจึงแจ้งให้ช่างมาซ่อม ต่อมา นายนิวัฒน์ฯ เป็นช่างเข้ามาซ่อมตู้เซฟให้
แต่หลังจากซ่อมเสร็จปรากฏว่า เงินหายไปส่วนหนึ่ง แต่ผู้เช่ายังไม่แน่ใจว่าเงินหายจริงหรือเข้าใจผิดในยอดเงิน หลังจากนั้นต่อมาผู้เช่าได้มาเปิดตู้เซฟอีกครั้งปรากฎว่าเงินหายไปอีกส่วนหนึ่ง จึงได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้อง พบว่า นายนิวัฒน์ฯ ได้เข้ามาปรับมุมของกล้องวรจรปิดหน้าห้องและพบว่ามีการใช้การ์ดเปิดประตูเข้าไปในห้องของผู้เช่าโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย ผู้เช่าจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี เป็นเหตุให้นายนิวัฒน์ฯ ถูกจับกุมและดำเนินคดี ต่อมา นายนิวัฒน์ฯ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ชดใช้เงินให้ผู้เสียหายตามที่ตกลง เป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับอีกครั้งหนึ่งและถูกจับกุมในที่สุด โดยหลังจากจับกุม ได้ดำเนินการนำผู้ต้องหาส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อหา