ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ ป.ป.ท. ป.ป.ช. อย. เปิดปฎิบัติการ “สยบนาคี ล้างบางเส้นทางยาเถื่อน”

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.อภิชาติ โพธิจันทร์ รอง ผบก.ปปป. นำโดย พ.ต.อ.เพิ่มวุฒิ ประทุมราช ผกก.1 บก.ปปป., พ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.2 บก.ปปป., พ.ต.อ.จำนาญ จันทร์เทศ ผกก.5 บก.ปปป., พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผกก.6 บก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) ภายใต้การอำนวยการของนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. รักษาราชการแทน รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., น.ส.อาภรณีย์ เสมรสุต ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 1, พ.ต.ท.สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และนายธนิต สุวรรณากาศ รักษาการ ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 1
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ภายใต้การอำนวยการของนายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, เภสัชกร เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, เภสัชกรหญิง อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ
องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พลเอก เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก
กรมบัญชีกลาง ภายใต้การอำนวยการของ นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง และคณะทำงาน
ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย ดังนี้
1. แพทย์หญิงหรือนางสาวบรินดาฯ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 38/68
ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเอง หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 162(1)(2)(3) และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
2. พันเอกหญิงหรือนางสาวกัญยารัตน์ฯ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 39/68
3. นายสมปราชฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 40/68
4. ร้อยตรีหญิง ภาวนาฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 41/68
5. นางสาวสุรีย์ฯ อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 42/68
6. นายสมพงศ์ฯ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 43/68
7. นายทินกรฯ อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 44/68
8. นางอภิญญาฯ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ 45/68
ในความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนเอง หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสารฯ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157, 162(1)(2)(3) และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
สถานที่จับกุม
ผู้ต้องหาที่ 1 บ้านพัก ซอยสุคนธสวัสดิ์ ๓ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าง กรุงเทพมหานคร
ผู้ต้องหาที่ 2 บ้านพักข้าราชการทหาร แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ผู้ต้องหาที่ 3-4 บ้านพัก ตำบลประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี
ผู้ต้องหาที่ 5-6 บ้านพักถนนแสงจันทร์-รูเบีย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
ผู้ต้องหาที่ 7 สภ.เมืองลพบุรี ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
ผู้ต้องหาที่ 8 โรงพยาบาลอานันทมหิดล ต.เขาสามยอด อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากผู้อำนวยการองค์การทหารผ่านศึก มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ดำเนินการคดีกับแพทย์หญิงบรินดาฯ กับพวก กรณี มีขบวนการทุจริตยาของโรงพยาบาลเพื่อนำไปขายต่อให้กับบุคคลภายนอก โดยจากการรวบรวมพยานหลักฐานได้ความว่า เมื่อปี พ.ศ.2561 ถึง พ.ศ.2568 แพทย์หญิงบรินดาฯ ขณะดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารผ่านศึก (ฝ่ายการแพทย์) และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ชำนาญการ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ที่มีหน้าที่ในการวินิจฉัยและรักษาอาการผู้ป่วยทั่วไป ได้กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นลักษณะของการแบ่งหน้าที่ทำกับ นางสาวกัญญารัตน์ฯ และพวก โดยนางสาวกัญญารัตน์ฯ เป็นผู้ทำหน้าที่ชักชวนกลุ่มบุคคลในลักษณะเครือข่ายแม่ทีม และลูกข่ายในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีสิทธิเบิกจ่ายตรงในการรักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลาง, ตระเตรียมวางแผนให้ผู้เข้าร่วมขบวนการที่จะมาตรวจรักษากับแพทย์หญิงบรินดาฯ ว่าจะต้องแจ้งกับพยาบาลว่าอย่างไร แต่ละรายจะต้องทานอะไรมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ว่ามีอาการอย่างไร จะต้องขอยาอะไรเพิ่มบ้างเพื่อให้ได้ ยาแผนปัจจุบันมา แล้วนำยาดังกล่าวทั้งหมดไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาแบ่งให้กับผู้ร่วมขบวนการในการทุจริตยาของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก
ซึ่งลูกทีมแต่ละคนจะได้รับค่าตอบแทนรายละ 500 บาทต่อครั้ง และหากนำยาออกมาจากโรงพยาบาลจะได้ค่าจ้าง 10% จากยอดเงินตามใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล หรือตามที่แม่ทีมได้ตกลงกับลูกทีมในแต่ละรายไว้ และแม่ทีมจะได้ค่าตอบแทนจากนางสาวกัญญารัตน์ฯ เป็นรายหัวตามจำนวนลูกทีม หัวละ 1,500 บาท อีกทั้งและมีการจัดหารถรับส่งคนมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกด้วย
จากการสืบสวนทราบว่าในขบวนการนี้มีแม่ทีมทั้งหมด 6 สาย แต่ละสายมีลูกทีมประมาณ 80-100 คน วนเวียนมาพบแพทย์หญิงบรินดาฯ ตามนัดเพื่อรับยาและเมื่อได้ยามาแล้ว แม่ทีมจะเก็บยาทั้งหมด ใบเสร็จ และใบนัด นำไปมอบให้กับนางสาวกัญญารัตน์ฯ หรือบางครั้งนางสาวกัญญารัตน์ฯ จะมารับยาจาก แม่ทีม พร้อมทั้งจ่ายเงินให้กับแม่ทีม หากนางสาวกัญญารัตน์ฯ ไม่ได้มารับยาด้วยตนเอง ก็จะให้แม่ทีมนำยา ไปส่งให้ที่แฟลต หรือคอนโดตามที่นางสาวกัญญารัตน์ฯ แจ้งให้ทราบ และในรายที่ลูกทีม ไม่มาพบหมอตามนัดแม่ทีมจะไปขอบัตรประจำตัวประชาชนของลูกทีม เพื่อนำไปเปิดสิทธิของรับยาแทน โดยจะจัดหาคนไปรับยาแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกทีมที่ต้องเข้าไปพบแพทย์ในวันนั้น หรือบางครั้งก็เป็นตัวแม่ทีมไปยื่นขอรับยาแทนลูกทีม ซึ่งลูกทีมที่ไม่ได้ไปรับยาก็จะได้ค่าตอบแทนด้วย แต่อาจจะถูกหักค่าตอบแทนบางส่วนเพื่อนำไปให้กับคนที่ไปรับยาแทนตนเอง
ขบวนการนี้มีการนำยาที่ได้จากลูกทีมทั้งหมดไปขายต่อตามร้านขายยาในท้องตลาด ลูกทีมทั้งหมด ไม่มีผู้ใดได้รับยาที่ได้จากโรงพยาบาลทหารผ่านศึกไปรับประทานเลย โดยลูกทีมที่มีอาการป่วย และต้องการยาในการรักษา จะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่นหรือโรงพยาบาลเดิมที่ตนรักษาตัวอยู่ก่อนแล้ว ตามที่อยู่ของลูกทีม ซึ่งจะพบว่าประวัติการรักษาของลูกทีมเหล่านี้จะมีอาการเจ็บป่วยน้อยกว่าประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก
บก.ปปป. จึงรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย และขออนุมัติหมายค้น จำนวน 17 จุด จนวันนี้ บก.ปปป. สนธิกำลังกับ บก.ปคบ., บก.ปอศ. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช., ป.ป.ท. และ อย. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย และเข้าค้นจุดต้องสงสัยพร้อมกัน 17 จุด ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี, นนทบุรี, ชลบุรี, ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร พร้อมนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกรายยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา