บุกทลายแหล่งผลิต Pod K – แก๊สหัวเราะ รวมมูลของกลางกว่า 15 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทลายแก๊งผลิตและจำหน่าย บุหรี่ไฟฟ้า Pod K และแก๊สหัวเราะ รวมมูลของกลางกว่า 15 ล้านบาท

ตามที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสั่งการให้ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยและสุขภาพที่ดีของประชาชน โดยมอบหมายให้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้บรรลุผลสำเร็จ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและแก๊สหัวเราะ ซึ่งปัจจุบันได้ปรากฏสถานการณ์การแพร่ระบาด ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะ

ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเอง หรือผู้อื่น สร้างความเดือนร้อน รำคาญ แก่ประชาชนใกล้เคียง โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์รอง ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.เถกิงวุฒิ กิตติศุภคุณ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.จักราวุธ วัฒนศิริ ประจำ(สบ 5) บก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รอง ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.4 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ภูมิพัฒน์ บัวรัตนกุล รอง ผกก.1 บก.ปคบ.พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา รอง ผกก.4 บก.ปคบ.,

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภก.เลิศชาย  เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลง การปราบปรามจับกุมผู้ต้องหาที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและปฏิบัติการกวาดล้างตัดตอนลูกโป่งบรรจุแก๊สหัวเราะ ตรวจยึดแก๊สไนตรัสออกไซด์ที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ดังนี้

รายที่ 1  เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 “CIB.บุกทลายแหล่งผลิต Pod K ขายยามัจจุราชพันธุ์ใหม่”

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. จับกุม นายกันชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 เวลาประมาณ 06.30 น. ซึ่งต้องหาคดี “ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่4) พ.ศ.2562 มาตรา 29/9,56/4 ,คำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลง 8 ก.ค.67 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า”

พร้อมตรวจยึดของกลาง และทรัพย์สินเชื่อว่าเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด รวม 6 รายการ

1.หัว Pod K บรรจุน้ำยา จำนวน 45 ชิ้น

2.หัว Pod K รอบรรจุน้ำยา จำนวน 470 ชิ้น

3.เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว จำนวน 2 ชิ้น             

4.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า(ชนิดเติม Pod K) 50Ml 5 ชิ้น

5.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า(ชนิดเติม Pod K)100Ml จำนวน 4 ชิ้น 

6.เครื่องพิมพ์ฉลากสินค้าแบบพกพา 2 ชิ้น

รวมของกลาง จำนวน 528 ชิ้น มูลค่า 1,133,000 บาท

สถานที่จับกุม บริเวณคอนโดย่าน ถ.รัชดา-รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวผู้มีพฤติการณ์ลักลอบ จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าตามช่องทางออนไลน์ กลุ่ม Line Open Chat ชื่อว่า “PARTY777” ซึ่งมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายหัวพอตเค มีการส่งข้อความโฆษณา โดยให้สั่งซื้อสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าผ่าน Line Open Chat (สมาชิก 2,322 คน ผู้ติดตาม 420 คน) เปิดขายหัวพอตเค พร้อมบริการส่งให้ลูกค้าทางขนส่งเอกชน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนจนสืบทราบว่า ร้านขายหัวพอตเค ดังกล่าว มีการสต็อกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่สถานที่จับกุม จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้น ต่อศาลอาญามีนบุรี และวันที่ 11 มี.ค.68 ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้น พบนายกันชัยฯ แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ และเป็นผู้นำตรวจค้น พบ Pod K ของกลางดังกล่าวข้างต้น นายกันชัยฯ รับว่าเป็นเจ้าของ ร้านขาย Pod K ดังกล่าว จัดจำหน่ายช่องทางออนไลน์และแพ็คสินค้าจัดส่งตามออเดอร์ จึงจับกุมพร้อมยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายที่ 2 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 “รวบสาวลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมของกลางบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 4 หมื่นชิ้น มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท”

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย  พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน สว.กก.1 บก.ปคบ. จับกุม น.ส.ชญานิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เมื่อวันที่ 12 มี.ค.68 เวลาประมาณ 17.30 น. ซึ่งต้องหาคดี “ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่4) พ.ศ.2562 มาตรา 29/9,56/4 ,คำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการที่ 24/2567 ลง 8 ก.ค.67 เรื่องห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า และผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดย ประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตร 242, มาตรา 246 วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560”

พร้อมตรวจยึดของกลาง บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 40,000 ชิ้น มูลค่าประมาณ 10,000,000 บาท

สถานที่จับกุม บริเวณคอนโดย่านลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนเพจ FACEBOOK  relx M2M Thailand ทราบว่ามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ จึงได้ทำการล่อซื้อจนทราบว่ามีการจัดส่งสินค้าบุหรี่ไฟฟ้ามาจากบ้านพักย่านทาว์นอินทาว์น เขตวังทองหลาง กทม. และทราบว่ามีการย้ายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้า มายังคอนโดย่านลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงสืบสวนจนทราบว่ามีการเก็บสินค้าดังกล่าวไว้ที่บริเวณคอนโดดังกล่าว จึงได้ขอหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้น พบ น.ส.ชญานิษฐ์ฯ แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ พบบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า ตามรายการของกลางข้างต้น จึงได้ทำการจับกุมพร้อมยึดของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รายที่ 3 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. บุกค้น 9 จุด สกัดแก๊สหัวเราะก่อนถึงผู้บริโภค ยึดแก๊สไนตรัสออกไซด์ กว่า 40,000 หลอด พร้อมลูกโป่ง มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท

เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคม. ตรวจค้นจับกุม ดำเนินคดีกับผู้ผลิตและจำหน่ายลูกโป่งแก๊สหัวเราะ ในพื้นที่ถนนข้าวสาร จึงได้สืบสวนขยายผลหาแหล่งที่มา สถานที่กักเก็บ จุดกระจายสินค้า รวมถึงการลักลอบจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ จนกระทั่งวันที่ 11, 12 มี.ค.68 ได้นำหมายค้นของศาลเข้าตรวจค้นสถานที่ลักลอบจำหน่าย จัดเก็บ และส่งสินค้า จำนวน 9 จุด ในพื้นที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ, ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และพื้นที่ กทม. ได้แก่ เขตจตุจักร เขตบางบอน เขตวัฒนา เขตสวนหลวง เขตวังทองหลาง เขตสาทร และเขตคลองเตย             

จากการตรวจค้นทั้ง 9 จุด สามารถตรวจยึดของกลาง จำนวน 46,246 ชิ้น มูลค่า 3,111,500 บาท ได้แก่ หลอดบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ จำนวน 40,975 หลอด, ลูกโป่งสำหรับใช้บรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ จำนวน 3,698 ลูก และ กระบอกสำหรับใช้อัดแก๊ส จำนวน 1,591 กระบอก

โดยการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน “จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง” ระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท และกรณีหากนำแก๊สไนตรัสออกไซด์มาบรรจุลูกโป่งจำหน่าย จะเป็นความผิดฐาน “ผลิต ขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต”ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาทตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510

พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. กล่าวฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความห่วงใยพี่น้องประชาชน ปฏิบัติการตรวจค้นในครั้งนี้ เป็นมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามยังเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมายอยู่ และมีผลกระทบต่อสุขภาพ เนื่องจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายจากนิโคตินที่มีฤทธิ์เสพติดสูง เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามอย่างเข้มงวด และการผลิต และจำหน่ายลูกโป่งบรรจุแก๊สไนตรัสออกไซด์ ต่อเนื่องจากการระดมกวาดล้างในพื้นที่ถนนข้าวสารครั้งก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ได้ตรวจค้น ขยายผลถึงสถานที่จัดเก็บ แหล่งกระจายสินค้า ที่นำมาจำหน่ายให้กับร้านค้าและนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ และขอเตือนไปยังประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆ ให้หลีกเลี่ยงการใช้ลูกโป่งแก๊สหัวเราะเนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อสมองและระบบประสาทสำหรับประชาชนที่พบเห็นการลักลอบจำหน่ายลูกโป่งเเก๊สหัวเราะ หรือพบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191, 1599 และ 1135 หรือ เพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภญ. สุภาวดี ธีระวัฒน์สกุล ผู้อำนวยการกองอาหาร กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อป้องปรามและตรวจสอบการนำแก๊ส Nitrous oxide (ไนตรัสออกไซด์) มาใช้ผิดวัตถุประสงค์

จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนทั้งหลายที่ซื้อแก๊ส Nitrous oxide (ไนตรัสออกไซด์) ทั้งที่เป็นถัง 3.3 ลิตร เป็นกระเปาะมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ใส่ลูกโป่งเพื่อสูดดมให้รู้สึกเพลิดเพลินและเคลิบเคลิ้มอาจส่งผลอันตรายถึงตายได้ เนื่องจากแก๊สที่บรรจุในลูกโป่งคือแก๊สไนตรัสออกไซด์ หากสูดดมเข้าไปมาก แก๊สจะเข้าไปแทนที่ออกชิเจนในปอดและในระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มึนงง ร่างกายไม่สามารถควบคุมระบบหายใจหรือประสานการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ได้ อาจทำให้หกล้ม ได้รับบาดเจ็บ และหมดสติ หากสูดดมบ่อยครั้งเป็นเวลานานจะทำให้เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม มึน ชา กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย เหน็บชาบริเวณนิ้วมือนิ้วเท้า รับความรู้สึกไม่ได้ เนื่องจากภาวะขาดวิตามินบี 12 ร้ายแรงสุดอาจเสียชีวิตได้  และทาง อย. เคยจับกุมผู้ขายลูกโป่งแก๊สหัวเราะและออกข่าวเตือนผู้บริโภคไปแล้วหลายครั้ง จึงขอเตือนให้ผู้ที่นำแก๊สไนตรัสออกไซด์มาบรรจุแล้วขายให้กับประชาชนให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที ถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: [email protected] Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ