สืบนครบาล ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้าเลี่ยงใช้ผ้าคลุมช่วงระดม ลอบขายใกล้โรงเรียนดังย่านพระประแดง

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสัวสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง, รอง ผบก สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. จับกุมตัวนายนวพล อายุ 22 ปี พร้อมของกลาง บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบ แล้วทิ้งจำนวน 581 ชิ้น และ น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า 34 ชิ้น รวมจำนวน 615 ชิ้น ได้ที่บริเวณหน้าร้าน Trendy vape ต่อเนื่องภายในร้าน Trendy vape ประชาอุทิศ 90 ต.ในครองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการเป็นพื้นที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร ห่างจากโรงเรียนสารสาสน์วิเทศศึกษา ประมาณ 300 เมตร มีการเปิดเป็นร้านลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำการสืบสวนหาข่าวในพื้นที่รับผิดชอบและสถานที่ใกล้เคียงเพื่อหาร้านหรือสถานที่ที่มีการกระทำความผิดลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่ประชาชนและเยาวชน โดยเฉพาะร้านซึ่งมีสถานที่ตั้งขายใกล้กับสถานศึกษาหรือโรงเรียน เพื่อเข้าทำการตรวจค้นจับกุมการกระทำความผิดให้ได้
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีห้องเช่าขายสินค้าใช้ชื่อร้าน Trendy vape ประชาอุทิศ 90 ในช่วงระดมกวาดล้างได้มีการนำผ้าสีดำมาปิดคลุมหน้าร้านเพื่อปิดบังการมองเห็นแต่ยังมีการลักลอบเปิดจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่อยู่ปกติ โดยใช้บัญชีชื่อบัญชีชาวต่างชาติเป็นบัญชีธนาคารในการรับโอนเงินค่าจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า สำหรับลูกค้าที่ประสงค์จะโอนจ่าย และเงินสดสำหรับลูกค้าที่ประสงค์จ่ายด้วยเงินสด
ต่อมาวันที่ 26 ก.พ.2568 เวลาประมาณ 15.13 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เดินทางไปตรวจสอบที่จุดดังกล่าวตามที่สายลับให้ข้อมูล โดยได้ไปยืนอำพรางล่อซื้อ ปรากฏพบชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเข้ม สวมกางเกงขายาวสีดำ สวมหมวกแก๊ปสีเขียว ทราบชื่อ นายนวพล อายุ 22 ปี เข้ามาแสดงตนว่าเป็นผู้ดูแลร้าน สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าต้องการบุหรี่ไฟฟ้าใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำพรางจึงตอบว่าใช่ จากนั้นได้เดินเข้าไปหยิบบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง ยี่ห้อ ESKOBAR 1 ชิ้น จากภายในร้านรับสกรีนเสื้อผ้าไม่มีชื่อร้านซึ่งเป็นที่หลบซ่อนดูลูกค้าที่จะเดินมาซื้อบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมแจ้งราคาให้ทราบว่า บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง ยี่ห้อ ESKOBAR ราคา 360 บาท พร้อมกันนั้นผู้ดูแลร้านได้เปิดคิวอาร์โค้ดจากโทรศัพท์มือถือให้สแกนเพื่อชำระค่าบุหรี่ไฟฟ้า
ปรากฏหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อำพรางได้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อชำระค่าบุหรี่ไฟฟ้าเสร็จเรียบร้อย ปรากฏว่าข้อมูลสลิปการโอนเงินเป็นการโอนเงินจากบัญชี เข้าชื่อบัญชีชาวต่างชาติ จำนวน 360 บาท
จากการสอบสวน นายนวพล ผู้ดูแลร้านและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ให้การรับสารภาพว่า ยังมีบุหรี่ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า ที่ตนรับจ้างลักลอบขายให้แก่ประชาชนและเยาวชนซุกซ่อนอยู่ภายในร้าน Trendy vape ซึ่งตนได้คลุมผ้าสีดำปิดบังไว้ในช่วงที่มีการระดมปราบปรามอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอเข้าตรวจค้นกระทั่งพบของกลางดังกล่าว
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ”ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และ “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 246 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย