ตร.ไซเบอร์ ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง ลอบขนข้ามชายแดน

ตำรวจไซเบอร์ 3 เปิดปฏิบัติการ “ซีลแม่น้ำโขง” ทลายเครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดังลอบขนข้ามชายแดน พบเงินหมุนเวียนปีละกว่า 10 ล้าหบาท และยึดจานกระจายสัญญาณ ปิดช่องการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเอื้อมิจฉาชีพ

สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ บช.สอท. ดำเนินการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดทางออบไลน์ โดยบอบหมาย พล ต ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผมช สอท. และ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สอท.3 ลงพื้นที่ระดมกวาดล้างอาชญากรรมบุกค้นจับกุมเครือข่ายอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในพื้นที่ภาคอีสาน จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 และ พ.ต.อ.พรณรงค์ สุริยชัยวงษ์ รอง ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าตรวจค้นเป้าหมาย เครือข่ายปลอมไฟแช็กยี่ห้อดัง และตรวจค้นพื้นที่ลักลอบติดตั้งจานกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกล ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดหนองคาย ทั้ง 2 ปฏิบัติการ ดังนี้

ปฏิบัติการที่ 1 สืบเนื่องจากกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากสำนักงานกฎหมาย R.W.T. ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากบริษัทไทยเมอร์รี่ จำกัด เจ้าของเครื่องหมายการค้า “Taiyo” ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไฟแช็กยี่ห้อดังของประเทศไทย พบว่า มีการจำหน่ายและปลอมเครื่องหมายการค้า ขายผ่านช่องทางออนไลน์

และยังมีการโพสต์ในลักษณะแอบอ้างว่า สินค้าดังกล่าวเป็นของแท้ ซึ่งอาจเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ จึงได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด กระทั่งพบว่าเครือข่ายดังกล่าวกระจายอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร และมีลักษณะเป็นขบวนการมีการแบ่งหน้าที่กันทำ

นอกจากนี้ พบว่ามีเงินหมุนเวียนในขบวนการนี้ ปีละไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งได้ทำมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ และหมายค้นต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เพื่อทำการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการนี้

กระทั่งในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักและสถานที่เก็บสินค้าผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร จำนวน 5 จุด ทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้จำนวน 4 ราย ดังนี้

1.นายประจวบ อายุ 46 ปี

2.นายนครินทร์ อายุ 28 ปี

3.น.ส.นราวดี อายุ 42 ปี

4.น.ส.รินรดา อายุ 24 ปี

พร้อมของกลางไฟแช็กปลอมเครื่องหมายการค้า Taiyo จำนวน 2,050 ชิ้น, สมุดบัญชี, โทรศัพท์ที่เชื่อมบัญชี สำหรับรับโอนค่าสินค้าและสมุดจดรายละเอียดการส่งสินค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ปฏิบัติการที่ 2 ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และตำรวจภูธรภาค 4 ปฏิบัติการตรวจค้น 3 จุดในพื้นที่ จ.หนองคาย หลังจากสืบทราบว่ามีการติดตั้งจานกระจายสัญญาณที่สามารถส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตระยะไกลได้สูงสุดถึง 30 กิโลเมตร

โดยหันหน้ามุ่งไปทางสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งอาจตั้งข้อสังเกตได้ว่า มีการตั้งสถานีเพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดน และอาจนำไปสู่การใช้การก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นเข้าตรวจสอบในพื้นที่ทั้ง 3 จุด ดังนี้

จุดที่ 1 ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 10 ต.โพธิ์ชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 37.4 เมตร ซึ่งหันทิศทางไปยัง สปป.ลาว ห่างจากชายแดนเพียง 1.24 กิโลเมตร

จุดที่ 2 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 25.6 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 7.75 เมตร

และจุดที่ 3 ภายในอาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โพธิ์ชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย พบจานไวเลสลิงก์ ติดตั้งที่ความสูง 18 เมตร ระยะห่างจากชายแดน 936 เมตร

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ กสทช.ภาค 2 ได้ตรวจยึดของกลางจำนวน 11 รายการ และลงบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เมืองหนองคาย โดยจะนำของกลางกลับไปตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำความผิด จะดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป