ทำความรู้จักกับ ‘ร.ต.ท.หญิง อารียา’ ตำรวจไซเบอร์หญิงที่มีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มความสามารถ ใจเต็มร้อย ไม่แพ้ใคร
ร.ต.ท.หญิง อารียา ชิงชัย หรือลูกตาล รองสารวัตร สอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 พื้นเพเป็นคนจังหวัดระยอง เรียนจบจากโรงนายร้อยตำรวจ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 75 ช่วงมัธยมปลายเรียนสาย วิทย์-คณิต
จุดเริ่มต้นของการเป็นตำรวจ ?
ในจุดเริ่มต้นของการเป็นตำรวจ หมวดลูกตาลเล่าว่า ยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจอยากเป็นตำรวจ แต่ว่าในช่วง ม.ปลาย มีความตั้งใจว่าจะสอบหมอ ตนก็มีไปติวตามค่ายต่าง ๆ ที่ค่ายจะมีติวเกี่ยวกับนักเรียนนายร้อยตำรวจ นักเรียนเตรียมทหาร จนมีจุดหนึ่งเห็นรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ ตนเห็นแล้วรู้สึกชื่นชอบ จึงคุยกับคุณแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วตัดสินใจไปสอบในช่วงตอนจบ ม.6 พอสอบติดก็เลยได้เข้ามาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ
ในครอบครัวมีใครรับราชการอีกไหม ?
ในครอบครัวไม่มีใครรับราชการ ตนเป็นคนแรกที่รับราชการ
เตรียมตัวในการสอบนานไหม ?
หมวดลูกตาลบอกว่า มีการเตรียมตัวมาตลอด เนื่องจากในช่วง ม.6 ตนอยากเป็นแพทย์ ก็เลยมีการเตรียมตัวเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการอ่านหนังสือ จนได้มาลองสมัครสอบตำรวจ ข้อสอบส่วนใหญ่จะเป็นข้อสอบรวมทุกวิชา เช่น วิทย์ฯ, คณิตฯ, อังกฤษ, ไทย และสังคม ตนมีการเตรียมตัวมาก่อนแล้ว จึงไม่ได้กังวลอะไรในการสอบ
ดูแลงานในส่วนไหนบ้าง ?
จะมีการแบ่งเป็นภาค คือ ภาค 1, ภาค 2 และภาค 7 จะครอบคลุมพื้นที่คือ ภาคตะวันตก, ภาคตะวันออก และภาคกลาง ที่ไม่รวมกรุงเทพมหานคร
ภาคไหนได้รับแจ้งความเรื่องออนไลน์มากที่สุด ?
ส่วนใหญ่จะเป็นภาค 1 คือพื้นที่นนทบุรีกับสมุทรปราการ เนื่องจากมีประชากรค่อนข้างสูงในพื้นที่นั้น เรื่องของภัยออนไลน์จะเป็นสถิติเบอร์ 1 ที่ได้รับแจ้งความในท้องที่ต่าง ๆ แต่ความจริงหลายจังหวัดก็เกิดภัยออนไลน์ขึ้นได้ เนื่องจาก พอเป็นโซเชียล พื้นที่การเกิดจะไม่มีขอบจำกัด ทุกพื้นที่สามารถถูกมิจฉาชีพเข้าถึงได้หมด ก็คือ ‘คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ’ มีโอกาสเสี่ยงหมด ต่างจังหวัดก็สามารถเกิดขึ้นได้ ‘ทุกพื้นที่ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต’ มีความเสี่ยงทั้งหมด
พนักงานสอบสวนตำรวจไซเบอร์กับตำรวจธรรมดามีความแตกต่างกันไหม ?
หมวดลูกตาลบอกว่า ในเรื่องของการทำงานสอบสวนคือเหมือนกัน แต่ประเภทคดีที่รับจะมีความแตกต่างกัน ถ้าเป็นสถานีตำรวจท้องที่ก็จะรับทุกประเภท แต่พอเป็นของไซเบอร์ก็จะมีขอบจำกัด คือรับเฉพาะคดีที่เป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีออนไลน์
ทำไมถึงอยากเป็นแพทย์ ?
ปกติตนมีความชื่นชอบในวิชาชีววิทยาอยู่แล้ว พอได้มีโอกาสไปเข้าค่ายชีววิทยาโอลิมปิก ทำให้รู้สึกว่าชอบมาก ชอบเรื่องของการดูแลคนไข้ รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้ทำงานในส่วนนั้น ก็เลยอยากเป็นแพทย์
หน้าที่หลักๆ ตอนนี้ทำอะไรบ้าง ?
ตอนนี้มีหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามหน้างานของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย
ตอนเรียนปรับตัวยากไหม ?
หมวดลูกตาลบอกว่า ปรับตัวไม่ยาก เพราะปกติเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายอยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่า ‘เหนื่อยไหม?’ ก็รู้สึกเหนื่อย แต่ว่าอดทนได้ เพราะมีคนที่รอความสำเร็จอยู่ข้างหลัง พอรู้สึกท้อ จะคิดถึงพ่อแม่ ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ ‘ทำไมแค่นี้เราจะทำไม่ได้’ สุดท้ายก็เรียนจบมาได้ตามเป้าหมายของตนเอง
ตอนเรียนเคยไปประจำอยู่ที่ไหนมาบ้าง ?
ตอนก่อนจบ ในช่วงปิดเทอมแต่ละปี ทางโรงเรียนจะมีให้ไปฝึกงานในแต่ละที่ ในช่วงปี 3 ก็ได้มีโอกาสไปฝึกงานในนครบาล สน.วังทองหลาง จากนั้นก็มีไปฝึกงานที่ต่างจังหวัดในสายงานอื่น ๆ เกี่ยวกับการป้องกันปราบปราม, จราจร, สืบสวน และงานธุรการ ครั้งหนึ่งเคยได้มีโอกาสไปฝึกงานที่ สภ.พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ก่อนจบก็มีไปฝึกงานที่สถานีตำรวจภูธรศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ตั้งแต่ฝึกงานมา ชอบที่ไหนที่สุด ?
หมวดลูกตาลบอกว่า ชอบศรีราชามากที่สุด เพราะรู้สึกว่าจังหวัดชลบุรีเป็นจังหวัดที่น่าอยู่ ต่อให้งานค่อนข้างหนัก แต่ว่าทำให้ได้พักผ่อนจิตใจ ได้อยู่ใกล้ ๆ บ้าน เนื่องจากตนเป็นคนจังหวัดระยอง ก็เลยทำให้รู้สึกว่าศรีราชาอยู่แล้วสบายใจ อยู่แล้วมีความสุข
หน้าที่ไหนยากที่สุด ?
ทุกหน้างานมีความยากง่ายไม่เหมือนกัน แต่ถ้ายากที่สุดจะเป็นงานสอบสวน เนื่องจากจะมีความเฉพาะทาง เกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนส่วนใหญ่ ตั้งแต่การขอเอกสารธนาคาร การส่งตัวผู้เสียหายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชน ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการส่งตัวผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล ส่วนใหญ่แต่ละคดี คนที่ดำเนินการเรื่องต่าง ๆ จนถึงขั้นส่งสำนวนไปอัยการเพื่อให้อัยการสั่งฟ้อง ก็คือเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเป็นหลัก
มองแพลนเกี่ยวกับ อาชีพนี้ยังไง ?
การเติบโตในอาชีพตำรวจ ไม่ได้คาดหวังมากขนาดนั้น แต่ว่าขอให้ปัจจุบันได้ทำงานเต็มที่ มีความสุขในการทำงาน ก็เพียงพอแล้ว แต่ก็มีวางแพลนไว้บ้าง แต่มันเป็นเรื่องของอนาคต ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอ หมวดลูกตาลกล่าว
จุดมุ่งหมายสูงสุดในการทำงาน ?
หมวดลูกตาลบอกว่า จุดมุ่งหมายสูงสุดในการทำงานคือ การได้ช่วยเหลือประชาชน เพราะเวลาประชาชนเดือดร้อนจากการถูกฉ้อโกง ก็รู้สึกสงสารประชาชนที่ได้รับความเสียหาย อย่างเช่นคดี Call Center ไม่ใช่แค่ประชาชนที่โดน ตำรวจก็โดนเหมือนกัน ตนจึงรู้สึกว่า มันน่ากลัว และไม่แปลกใจว่า ทำไมประชาชนถึงหลงเชื่อ เพราะมิจฉาชีพจะมีการโทรมาข่มขู่ หลอกลวงว่าเป็นตำรวจ ทำให้ตนรู้สึกว่า ‘ตนเองที่เป็นตำรวจไม่เคยทำ และพูดจาแบบนี้ใส่ประชาชน’
กลโกงแบบไหนที่ประชาชนตามไม่ทัน ?
มิจฉาชีพจะมีการเล่นกับจิตวิทยาคน หลายคนรู้ว่ามันมีคดีที่เกี่ยวกับ Call Center แต่พอมาแบบไม่ได้ตั้งตัว มีกลลวงใหม่ๆ มาตลอด จึงทำให้รู้สึกยากกับการรับมือ คุณลูกตาลจึงอยากฝากเตือนประชาชน ต้องมีสติอย่าไปหลงเชื่ออะไรง่ายๆ อย่างเช่น ถ้ามีคนโทรมาให้ไปพบหรือว่าให้โอนเงิน ‘ไม่ต้องโอน ไม่ต้องทำ เพราะถ้าเป็นหน่วยงานราชการจริงๆ จะต้องมีหนังสือติดต่อมา ถ้าเป็นเรื่องที่สำคัญ’
หลอกลงทุนส่วนมากจะมาในรูปแบบไหน ?
หมวดลูกตาลบอกว่า มีหลายรูปแบบ เพราะว่าชีวิตประจำวันหลายคนใช้โทรศัพท์เป็นหลัก แทบจะอยู่กับโทรศัพท์ 24 ชั่วโมง มิจฉาชีพก็จะเข้ามาทางนี้ คือการเข้าถึงข้อมูล Facebook, SMS ต่าง ๆ รวมถึงการโทรเข้าโทรออก มิจฉาชีพจึงอยู่ใกล้ตัวเรามาก
เวลาท้อหรือเหนื่อยจัดการความรู้สึกตรงนั้นยังไง
หมวดลูกตาลเล่าว่า ในช่วงฝึกก็จะมีเพื่อนผู้หญิง ที่ฝึกเรียนด้วยกัน พักอยู่ด้วยกัน ก็จะคอยเป็นกำลังใจให้กัน เวลาเหนื่อยในแต่ละวันก็จะมานั่งคุยกัน แลกเปลี่ยนเรื่องราวต่าง ๆ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข พอผ่านไปแล้วก็ทำให้รู้สึกคิดถึง และดีใจที่ผ่านมาได้ ถ้าท้อก็คอยให้กำลังใจตนเอง ให้อดทน บางทีถ้ารู้สึกเหนื่อยมาก ๆ ตนก็จะมีเขียนไดอารี่ระบายความรู้สึก แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้เพื่อนที่อยู่ด้วยกัน คอยเป็นกำลังใจให้กัน เพราะว่าช่วงที่ฝึกแรก ๆ จะใช้โทรศัพท์ไม่ได้ แต่พอเริ่มใช้โทรศัพท์ได้ ก็โทรหาคุณพ่อกับคุณแม่ เล่าระบายให้พวกท่านฟัง
ฝากเตือนภัยประชาชน ?
หมวดลูกตาลฝากเตือนภัยประชาชน “สำหรับภัยออนไลน์มันอยู่ใกล้ตัวเรามาก ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติ ทั้งในการแชร์ การสื่อสาร ตรวจสอบ อย่างเช่น ถ้าต้องการจะซื้อสินค้าออนไลน์ ก็ต้องมีการตรวจสอบให้ดี ว่าร้านนี้อยู่จริงไหม? ดูรีวิว ถ้าไม่มีก็ไม่ควรเสี่ยง อีกอย่างคือพวกเฟซบุ๊ก เพราะว่าช่วงนี้มีเฟซบุ๊กปลอมเยอะมาก ให้ประชาชนตรวจสอบให้ดี ก่อนที่จะโอนเงินทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ”
