สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง
พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี)บูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งวันนี้ 21 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมุ่งหน้าเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งพบรถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU Mu-7 สีขาว ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียง รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.46 – 47 ทล.32 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) พื้นที่ ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ พบมี นายซอ อายุ 39 ปี สัญชาติ เมียนมา เป็นคนขับ และมี น.ส.แน อายุ 32 ปี สัญชาติ เมียนมา นั่งโดยสารด้านซ้ายมือของผู้ขับขี่ ทั้ง โดยมี แรงงานต่างด้าว อัดแน่นมาในรถด้านหลัง ซึ่งมีการแปลงรื้อเบาะออกทั้งหมด นำเสื่อมาปู พบแรงงานต่างด้าว อีก 10 คน เป็นเพศชาย 5 คน เพศหญิง 5 คน จึงเชิญรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงอ่างทอง จากการตรวจสอบพบว่า นายซอ คนขับและแฟนสาว มีหนังสือเดินทาง แต่แรงงานต่างด้าว 10 คน สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง สอบถาม นายซอ อายุ 39 ปี สัญชาติ เมียนมา เป็นคนขับ ให้การยอมรับว่า วันนี้ 21 มกราคม 2568 ได้รับการประสานงานจาก นางสาวแสงจันทร์ ผ่านไลน์ ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 10 คน ที่ จ.ชัยนาท
จากนั้นตนได้มีการชักชวน น.ส.แน แฟนสาว เพื่อมานั่งเป็นเพื่อน และที่ต้องยอมลงทุนถอดเบาะนั่งโดยสารภายในรถออกทั้งหมดออก อยากให้แรงงานต่างด้าวนั่งได้สะดวก ไม่แออัดโดยแรงานต่างด้าวที่ขนมา 10 คน ภรรยาตนเองนั่งหน้ามาด้วยกัน แรงงานต่างด้าวทั้งหมดรับมาจากจังหวัดชัยนาท จะต้องตระเวนไปที่ ที่ย่านพระราม 2 สมุทรสาคร สมุทรปราการ ชลบุรี ไปส่งให้กับเอเย่นต์อีกต่อหนึ่ง ตนเองรับเจ้างขนแรงงานต่างด้าวมาแล้วประมาณ 1 ปี เฉลี่ยเดือนละประมาณ 7 – 10 เที่ยว ต่อเดือน ยังไม่เคยถูกจับกุมเลยเพิ่งจะมาถูกจับกุม ส่วนค่าจ้างตนเองจะได้คนละ 800 บาท ต่อคน ไม่ได้รับจ้างเหมา ส่วนเที่ยวมีรถวิ่งรับจ้างคนแรงงานต่างมาด้วยกัน 2 คัน อีก 1 คันหลบหนีไปได้ไม่ทราบว่าไปส่งแรงงานต่างด้าวที่ไหนบ้าง ส่วนตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้วิ่งมาได้ 4 เที่ยวแล้ว เงินที่ตนเองส่วนหนึ่งจะทำบุญช่วยเหลือเด็กกำพร้าชาวม้งชาวเมียนมา ตามสถานที่ต่างๆ และวัดที่รับเลี้ยงเด็ก ให้ครอบครัวและตนเองเก็บไว้ใชเอง ส่วนอาชีพหลักของตนเองทำงานก่อสร้าง รถที่ใช้เป็นรถที่ตนเองผ่อนต่อจากลูกพี่ สอบถามแรงงานต่างด้าว ผ่านล่ามให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 5,000 – 15,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายซอ คนขับ และแฟนสาว ข้อหา “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนแรงงานต่างด้าว 10 คน ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
