CIB รวบแม่เล้า แสวงหาประโยชน์ค้าประเวณีเด็กวัย 14 ปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบแม่เล้า แสวงหาประโยชน์ค้าประเวณีเด็กวัย 14 ปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พ.ต.อ.ทรงกลด เกริกกฤตยา รรท.ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม ผกก.6 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปรีชา ศรีใส สว.กก.6 บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุม นายฟัรดูฯ อายุ 20 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หรือรับไว้ซึ่งเด็กยังไม่เกินสิบห้าปี, เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือ ชักพาไป เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบเป็นความผิดจะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร โดยได้กระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม อันเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี, กระทำโดยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี, จัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ, โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ไปเพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร, ชักจูง ยุยงส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด, กระทำด้วยประการใดอันเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก และกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด” สถานที่จับกุม รีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากได้รับแจ้งว่า พบสื่อสังคมออนไลน์ X มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เข้าข่ายการกระทำผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ เป็นธุระจัดหาเด็กเพื่อขายบริการทางเพศในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบ

ผลการตรวจสอบพบว่า มีพฤติการณ์ขายบริการทางเพศเด็กในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส จริง โดยแม่เล้าจะทำการมาส่งผู้เสียหายที่รีสอร์ตในพื้นที่ และคิดค่าบริการค้าประเวณีเป็นเงิน 1,500 บาทต่อ 1 คน โดยจะหักเป็นค่านายหน้าจากการขายบริการทางเพศเป็นเงิน 500 บาท
และจะให้กับผู้เสียหาย 1,000 บาท

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้วางแผนจับกุม โดยทำการติดต่อแม่เล้าเพื่อล่อซื้อ จากนั้นแม่เล้าได้นัดหมายให้เดินทางไปยังรีสอร์ตในพื้นที่ ม.1 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เมื่อเดินทางไปถึง พบกับนายฟัรดูฯ แม่เล้า จากนั้นได้ต่อรองราคาซื้อประเวณีในครั้งนี้จาก 1,500 บาท เป็นเงินจำนวน 1,300 บาท และได้จ่ายเงิน จำนวน 1,300 บาท ให้กับแม่เล้าและแม่เล้า ได้บอกให้สายลับเข้าไปที่ห้องหมายเลข 1 ซึ่งได้เปิดรอไว้แล้ว จากนั้นสายลับได้ส่งสัญญานให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบเพื่อดำเนินการเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือผู้เสียหาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พมจ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทำการเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย พบผู้เสียหายอายุ 14 ปี จากการสอบถามผู้เสียหายให้การว่า ในการขายประเวณีครั้งนี้ลูกค้าที่มาซื้อบริการทางเพศ จำนวน 1,300 บาท ซึ่งผู้เสียหายได้รับเงินจำนวน 1,000 บาท โดยแม่เล้าหักค่านายหน้าในการขายบริการทางเพศ จำนวน 300 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำผู้เสียหายที่เป็นเด็กไปยังบ้านพักเด็กเพื่อปรับสภาพจิตใจและเข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามกลไกลการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ที่บ้านพักเด็กนราธิวาส

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบห้องพักของนายฟัรดูฯ ผลการตรวจค้นพบธนบัตรรัฐบาลไทยที่อยู่ภายในกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล ซึ่งมีหมายเลขธนบัตรรัฐบาลไทยตรงกับหมายเลขธนบัตรรัฐบาลไทยที่ได้ให้สายลับทำการล่อซื้อต่อหน้าแม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งให้นายฟัรดูฯ ทราบว่าการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดต้องถูกจับกุมและได้แจ้งสิทธิ์ตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา