สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และแก๊งอาชญากรรม ทั่วประเทศ ตามนโยบายรัฐบาล ของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร)
ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., ได้สั่งการให้พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่มรอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ, พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม, พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.ธีรชาติ ธีรชาติธำรง รอง ผบก.ปพ.รรท.ผบก.ปพ.และพ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.รรท.ผบก.รน.
พฤติการณ์ ด้วยนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืน ซึ่งเป็นองค์กรเหนือกฎหมาย ทำลายความมั่นคง สร้างความเหลื่อมล้ำ ก่อเหตุสะเทือนขวัญอยู่เรื่อยมา
วันที่ 4 พ.ย.2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายการบริหารราชการ ตร. และได้กำหนดให้การปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็น 1 ในนโยบาย 15 ข้อด้วย จึงได้สั่งการและมอบหมายให้ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงาน (ปป),(สส) ดำเนินการประชุมวางแผน ทำลายเครือข่ายผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญที่น่าจะก่ออาชญากรรมร้ายแรงในบ้านเมือง ให้ ทุก บก. ในสังกัด บช.ก. ดำเนินการคัดกรองเป้าหมายที่จะปฏิบัติในการตรวจค้นจับกุมผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง กลุ่มแก๊งอาชญากรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยกำหนดเป้าหมายตรวจค้นในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 118 จุดทั่วประเทศ หมายจับ 51 หมายจับ ในพื้นที่ 34 จังหวัดทั่วประเทศ แยกเป็น
กลุ่มผู้มีอิทธิพล จำนวน 47 เป้าหมาย ประกอบด้วย
1. ค้าอาวุธสงคราม 1 เป้า
2. มือปืนรับจ้าง 1 เป้า
3. ยาเสพติด 5 เป้า
4. ฮั้วประมูลงานราชการ
-อดีตนักการเมือง, เจ้าหน้าที่รัฐ ก่อคดีทุจริต 7 เป้า
5. นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ/รับจ้างทวงหนี้โดยใช้กำลัง
-แก๊งเงินกู้โหด มีอาวุธ และเงินกู้ออนไลน์ 18 เป้า
6. บุกรุกที่สาธารณะและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
-บ่อทราย บ่อขยะ และโรงเลื่อย 10 เป้า
-ลักลอบค้าสัตว์ป่า 3 เป้า
-รีสอร์ท บุกรุกที่ดินป่าสงวน 2 เป้า
กลุ่มแก๊งอาชญากรรม จำนวน 74 เป้าหมาย ประกอบด้วย
1. แก๊งโจรกรรมรถ 45 เป้า
2. กลุ่มผู้สร้างความเดือดร้อนทางทะเล และชายฝั่ง 15 เป้า
3. แก๊งวัยรุ่น สร้างความเดือดร้อน โชว์อาวุธ ก่ออาชญากรรม 10 เป้า
4. เปิดผับเสียงดัง มีเด็กและยาเสพติด 3 เป้า
5. ตลาด มีแกนนำต่างด้าว สร้างความเดือดร้อน 1 เป้า
กระทั่งวันนี้ 12 ธ.ค.2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้เปิดยุทธการ “CIB ขยี้อิทธิพล” ปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และแก๊งอาชญากรรม ทั่วประเทศ ปฏิบัติการครั้งนี้ ใช้ห้อง Real-Time Crime Center (RTCC) ชั้น 8 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม เป็นศูนย์ในการควบคุม สั่งการ พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดการเข้าปฏิบัติการของหน่วยปฏิบัติ
ผ่านระบบ video conference มายังห้อง RTCC มี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., รอง ผบช.ก. เป็นผู้ควบคุมห้อง RTCC มีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบ เข้าร่วมปฏิบัติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ควบคุม สั่งการ ด้วยตนเอง ใช้กำลังปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,285 นาย
สำหรับยุทธการในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สรุปผลการปฏิบัติ ณ เวลานี้ ทำการตรวจค้นทั้งหมด 118 เป้าหมาย, มีหมายจับ 51 หมาย
จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น จำนวน 90 ราย
ของกลางที่ตรวจยึด
1.ยานพาหนะ จำนวน 165 คัน
-รถยนต์ 21 คัน
-รถจักรยานยนต์ 144 คัน
2.อาวุธปืน 12 กระบอก, เครื่องกระสุน จำนวน 234 นัด
3.ยาเสพติด ยาบ้า 166 เม็ด, ยาไอซ์ 10.14 กรัม
4.สมุดบัญชีธนาคาร เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ 37 รายการ, เอกสารใบปลิวเงินกู้ ประมาณ 150,000 แผ่น
5. และอื่น ๆ อีกหลายรายการ
ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของ
พี่น้องประชาชน ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ในการป้องปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ
อันกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากขึ้น และเพื่อสร้างความสงบสุข ความปลอดภัย ให้แก่พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ของประเทศ
โดยมีผลปฏิบัติการที่น่าสนใจ ดังนี้
1. โจรกรรมรถข้ามชาติ มีการจับกุมกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถทั่วประเทศ
แก๊งการโจรกรรมรถรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ โดยทางสอบสวนกลาง (CIB) ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทย รวมถึงมีประชาชนได้ทำการถูกยักยอก, ฉ้อโกง จากการโจรกรรมรถยนต์ ทางตำรวจทางหลวง, ชุดเฉพาะกิจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ชปจร.ก.) และกองบังคับการปราบปราม ได้ร่วมกันขยายผลและสามารถทำการตรวจยึดรถ กลุ่มรถยนต์บรรทุกตู้ทึบที่ทำการขนรถจักรยานยนต์ฯ และรถจักรยานยนต์ ตามชายแดนทั่วประเทศ และทำการตรวจสอบพบ มีกลุ่ม เครือข่าย ผู้มีอิทธิพล ทำการตรวจค้น 29 จุด ตรวจยึดรถกระบะตู้ทึบ จำนวน 20 คัน, รถจักรยายนยนต์ 138 คัน จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 18 ราย
2. ตรวจค้นพับ จำนวน 3 จุด ทั่วประเทศ ได้แก่ จ.นครปฐม, จ.ชลบุรี และจ.สงขลา
2.1 จ.นครปฐม ทำการตรวจค้นผับดัง จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย น.ส.ปภานัฐฯ อายุ 25 ปี ผู้จัดการร้าน ข้อหา “ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการสถานบริการ, จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์, จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่ากำหนดเวลาฯ”สถานที่ สถานบริการแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.นครปฐม พบเยาวชนอายุกว่า 20 ปี จำนวน 38 คน (หญิง 32 คน / ชาย 6 คน) ไม่พบยาเสพติด และไม่พบสารเสพติดในปัสสาวะ
2.2 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ทำการจับกุมเจ้าของร้าน นายอุทิศฯ อายุ 38 ปี ข้อหา “เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน, เป็นนายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในระหว่างเวลา 22.00 น. – 06.00 น. โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี และพบต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำนวน 9 ราย, พบนักท่องเที่ยวมีสารเสพติด จำนวน 8 ราย
2.3 เมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา จับกุม นายองอาจฯ เป็นผู้จัดการร้าน ข้อหา “ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ “ตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 16/1, พบเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 2 ราย, ตรวจสารเสพติดเบื้องต้น พบเมทแอมเฟตามันในปัสสาวะ 10 ราย
3. จับอดีตเจ้าพนักงานรัฐ ทุจริตปลอมเอกสารทำสินเชื่อ
4. ปราบปรามกลุ่มเงินกู้นอกระบบ เรียกดอกเบี้ยโหด ทลายไป 3 เครือข่าย ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.นนทบุรี และจ.ชลบุรี จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย, ตรวจยึดใบปลิวเงินกู้กว่า 150,000 ใบ
5. ตรวจสอบบ้านนายทุน ลักลอบค้าสัตว์ป่า พื้นที่ จ.ราชบุรี
รวบนักธุรกิจเมืองราชบุรี ลักลอบค้าสัตว์ป่าหายากหลายชนิด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ลุยคุ้นบ้านพักนายทุน ในพื้นที่ จ.ราชบุรี หลังพบว่ามีการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมหลายชนิด โดยไม่ได้แจ้งการครอบครอง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า เป็นลิงทามารินหัวสำลี จำนวน 8 ตัว ราคาตัวละประมาณ 150,000 บาท รวมมูลค่า 1,200,000 บาท และ นกแก้วเกรย์แอฟริกา จำนวน 1 ตัว ราคาประมาณ 20,000 บาท รวมมูลค่าจากการตรวจยึดทั้งสิ้น 1,220,000 บาท โดยอายัดเป็นของกลาง นำส่งกรมอุทยานต่อไป
6. ค้นบ้าน รอง นายก อบต. ในพื้นที่ จ.ตรัง พบเป็นผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ ข่มเหงรักแกชาวบ้านตรวจยึดอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก เครื่องกระสุน 64 นัด
7. ค้นตลาดต่างด้าว พื้นที่บางบอน ทำการจับกุมบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ฯ จำนวน 12 ราย (ลาว 7 ราย เมียนมาร์ 5 ราย), ต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 4 ราย (เมียนมาร์ทั้งหมด)
8. ปฏิบัติการกวาดล้างอิทธิพลของ บก.รน.
เป็นการกวาดล้างผู้มีอิทธิพล ประเภท ผู้มีอิทธิพล สร้างความเดือดร้อนทางทะเล ชายฝั่ง ยาเสพติด และอาวุธปืน จำนวน 15 เป้าหมาย เป็นหมายจับ 5 เป้าหมาย สามารถจับกุมได้ 5 เป้าหมาย ของกลางที่ยึดได้ ยาเสพติดซุกซ่อนบนเรือ อาวุธสงคราม ปืนพก เครื่องกระสุน สถานการณ์ปฏิบัติการ อยู่ระหว่างขยายผลการค้นหาสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติม ผู้มีอิทธิพล คุมคอกหอย มีพฤติการณ์สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง เผาทรัพย์สิน ข่มขู่ ผู้ที่เลี้ยงหอย ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี