จับแล้วมือฆ่า ทุบหัว “ชายเร่ร่อน” ใช้ใบตองปิดอำพรางศพ ย่านดอนเมือง
เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ผ่านมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง นำโดย พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อำนาจ ฉ่ำชะเอม รอง ผกก.สส.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.ปกป้อง ฟองเลา พ.ต.ต.ภาคิน ดอกไม้ สว.สส.สน.ดอนเมือง ร.ต.อ.สมโชค คงตำหนิ ร.ต.อ.โชคชัย พิณะเวศน์ รองสว.สส.สน.ดอนเมือง กำลังฝ่ายสืบสวนสน.ดอนเมือง และฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 2 นำโดย พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ต.ณัฐพล คำแหง สว.กก.สส.บก.น.2 ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆาตกรรมทุบหัวชายเร่ร่อนแล้วใช้ใบกล้วยปิดอำพรางศพ ย่านดอนเมือง เมื่อวันที่ 28 พ.ย. โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนพหลโยธินใต้สะพานกลับรถใกล้วินรถตู้ต่างจังหวัดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางชุดที่ใส่ในวันก่อเหตุ หลังมีเบาะแสว่าคนร้ายหนีมากบดานอยู่แถวตลาด 200 ปี ปทุมธานี ก่อนนำกำลังปูพรมจนสามารถจับกุมได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นให้การยอมรับว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยตนเองชื่อนายพิพัณ์ นามสกุลแซ่ จากการตรวจสอบกลับไม่พบชื่อดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่มาทราบภายหลังว่าจริงๆแล้วไม่ได้มีชื่อตามที่กล่าวอ้าง แต่ชื่อนายฉลองรัฐ หรือปั๊ม หรือ ต๊ะ อายุ 36 ปี ชาวชัยบาดาล จ.ลพบุรี จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สน.ดอนเมือง
นายฉลองรัฐ หรือต๊ะ ยอมรับว่า วันเกิดเหตุตนเองกินเหล้าจนเมา แล้วเดินมาตามถนนไปเรื่อยๆเมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุได้ปีนข้ามแบริเออร์แล้วไปเจอผู้ตายนอนหลับอยู่ จึงหยิบหินทุ่มไปที่หัว 1 ครั้ง จนแน่นิ่ง แล้วเดินไปสูบบุรี่ก่อนจะเดินกลับมาใช่หินทุบไปที่เดิมอีก 1 ครั้ง แล้วได้ถอดกางเกงผู้ตายออกหวังที่จะกระทำชำเราแต่ไม่แข็ง เลยลากผู้ตายลงไปข้างทางแล้วพยายามจะทำชำเราเป็นรอบที่ 2 ก็ยังเหมือนเดิม เลยช่วยตัวเองจนสำเร็จในป่า ด้วยความกลัวว่าจะฟื้นขึ้นมาจึงใช้หินทุบไปที่เดิมอีกหลายครั้งจำไม่ได้ และตอนนั้นไม่ได้ดึงกางเกงผู้ตายกลับขึ้นมา ก่อนจะเดินไปดึงใบกล้วยที่อยู่เลยจากจุดเกิดเหตุมาจำนวน 3 ใบ มาปิดศพไว้เพื่ออำพรางคดีให้คิดว่าเป็นการข่มขืนแล้วฆ่า แทนที่จะเป็นการจงใจที่จะมาฆ่า
หลังก่อเหตุได้เดินกลับมาที่สถานีรถไฟการเคหะฯ เพราะเป็นที่พักประจำและได้ไปเจอลุงคนหนึ่งซึ่งเขาพูดไม่ได้เพราะเจาะที่คอ ไม่เคยรู้จักมาก่อนรู้แค่ว่าจะไปทางเดียวกันจึงพากันขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้าการเคหะฯ โดยลุงเขามีบัตรคนพิการจึงไม่เสียเงินแต่ตนเองต้องไปเสียเงินซื้อตั๋ว เมื่อมาถึงสถานีรถไฟรังสิตก็ได้ลงลิฟมาชั้นล่าง ก่อนจะแยกย้ายกันไป นับจากวันนั้นตนเองก็อาศัยเก็บของเก่าขอเงินซื้อเหล้ากิน ใช้ชีวิตไปวันๆ ก่อนมาถูกจับ ส่วนชุดที่ตนเองใส่ดูคล้ายลูกจ้างร้านอาหารนั้นตนเองเก็บมาจากถังขยะไม่ได้มารับจ้างหรือทำงานใดๆ ยอมรับว่าไม่เคยรู้จัก หรือโกรธแค้นอะไรกับผู้ตายมาก่อน ตอนนั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม และทำเพียงคนเดียว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นอำพรางศพ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายฉลองรัฐ หรือต๊ะ
– ปี 49 ถูกจำคุกในคดีฆ่าบุพการี พ้นโทษปี 59
– ปี 60 ถูกจำคุก ในคดีร่วมกันซิงทรัพย์ในเคหสถานเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง พ้นโทษ ปี 64
– ปี 65 ถูกจำคุกในคดีทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัส และเพิ่งพ้นโทษมา ปลายปี 66 ก่อนจะมาก่อเหตุลงมือฆาตกรรมชายเร่ร่อนเสียชีวิตในครั้งนี้