บุกรวบผัวเมียมิจฉาชีพ ขายของออนไลน์ทิพย์ ผู้เสียหายหลายสิบราย มีหมายจับรวมกัน 6 หมาย

สืบนครบาล รวบ ผัวเมียมิจฉาชีพโพสต์ขายของออนไลน์ หลอกขายทุกอย่าง ผู้เสียหายหลายสิบราย มีหมายจับรวมกัน 6 หมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผช.ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่สร้างเดือดร้อนให้ประชาชนจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ทศรัสมิ์ กิติธารา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้จับกุมตัว

1. นางสาวมารินทร์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 หมายจับ

1. ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 127/2566  ลงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”

2. ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 147/2565  ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”

3 .ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 100/2566  ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”

4. ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1441/2567  ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ”

5. ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1447/2567  ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ”

2. นายธนวิชญ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 339/2567  ลงวันที่ 5 เมษายน 2567

ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ”

จับกุม บริเวณถนนไม่ทราบชื่อ ม.2 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์

พฤติการณ์กล่าวคือ นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ สองผัวเมีย มีพฤติกรรมหลอกขายของออนไลน์ทุกชนิด อาทิเช่น บัตรคอนเสิร์ต เสื้อผ้า กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอีกหลายรายการ มีการแจ้งเตือนในเว็บไซต์ Blacklistseller ทั้งหมดจำนวน 49 รายการ โดยมีพฤติการณ์คือการลงขายสินค้าตามกลุ่มต่างๆในเฟสบุ๊คในราคาถูก เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามก็จะพยายามส่งหลักฐานเอกสารต่างๆเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อสินค้า จนผู้ซื้อสินค้ามั่นใจว่ามีตัวตนแน่นอนและทำการโอนให้ นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ ก็จะขาดการติดต่อไปทันทีและไม่ได้มีการส่งสินค้าให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้หลงเชื่อและถูกหลอกเป็นจำนวนมาก แม้มูลค่าจะไม่สูงมากนัก แต่เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงต้องรีบสืบสวนติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ ได้หลบหนีไปอยู่กับแม่ของนายธนวิชญ์ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้นำกำลังไปเฝ้าจุดเพื่อจับกุม นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พบรถต้องสงสัยที่คาดว่านายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์จะใช้ขับผ่านมา จึงได้เข้าปิดล้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายธนวิชญ์ กับนางสาวมารินทร์ ทราบและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย

ในชั้นจับกุม จากการซักถามนายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ให้การยอมรับแค่บางส่วน โดยบอกว่าเคยทำเองจริงเมื่อในอดีต แต่ปัจจุบันได้มีการขายบัญชีและเฟสบุ๊คของตนเองไปแล้ว และไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าวอีก ปัจจุบันได้ประกอบอาชีพขายผลไม้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด จะได้ทำการขยายผลต่อไป จากนั้นได้นำตัวนำตัว นางสาวมารินทร์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ และนำตัวนายธนวิชญ์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถือเป็นภัยสังคม หลอกประชาชนเป็นจำนวนมาก ต้องรีบดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด และขอฝากเตือนประชาชน ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือช็อปปิ้งออนไลน์ มักจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เสมอ วิธีป้องกัน ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของเว็บไซต์, การตรวจสอบบัญชีต่างๆ ข้อมูลผู้ขายให้ถี่ถ้วน หรือแม้กระทั่งการรีวิว ห้ามหลงกลในโปรโมชันล่อใจ เช็กแพ็กเกจ เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้ มีการลงทะเบียนร้านค้าโดยใช้ข้อมูลจริง นำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่ เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ สุดท้ายหากตกเป็นเหยื่อ โทรหาศูนย์ AOC 1441 พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โทรทันที เมื่อได้รับความเดือดร้อนจากมิจฉาชีพออนไลน์

เตือนภัย การเปิดบัญชีธนาคารให้บุคคลอื่น หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีธนาคารไปใช้ในการกระทำความผิด หรือเรียกว่าบัญชีม้า และการเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) การกระทำดังกล่าวมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และกฎหมายว่าด้วยป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งผู้กระทำความผิดต้องรับโทษทางอาญา หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย สามารถแจ้งมาได้โดยตรงที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป