ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปฏิบัติการ “ฉลามกอง 1 รวมพลังล่าต่างด้าวหนีตาย กว่า 2 คันรถ”
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.สมบูรณ์ ทองลอย ผกก.สภ.พยุหะคีรี,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์) นำโดย พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล, ร.ต.อ.ไพฑูรย์ ภาชีเชาว์ รอง สว.(ป) สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.มนัส มาหัวเขา รอง สว.(ป) สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.ศิรวิชญ์ เปี่ยมเสถียร รอง สว.(ป) สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.4 กก.1บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) นำโดย พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) นำโดย พ.ต.ต.พิฆเนศ เตรียมเกิดทรัพย์ สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล, ร.ต.อ.นราวิชญ์ เดชคง รอง สว.ส.ทล.3 กก.1บก.ทล., ร.ต.อ.สมโภช แทนขำ รอง สว.(ป.) ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ส.ทล.3 กก.1บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1.นายทองพีฯ อายุ 35 ปี (ผู้ขับขี่รถนำ) สัญชาติ ไทยผู้ถูกจับที่ 1
2.นาย ยะฯ 34 ปี (ผู้ขับขี่ ) สัญชาติ ไทยผู้ถูกจับที่ 2
ฐานความผิด “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
3.สัญชาติ เมียนมา จำนวน 7 รายผู้ถูกจับที่ 3 – 10
ฐานความผิด “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ของกลาง
1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ จำนวน 1 คัน
2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว จำนวน 1 คัน
3.โทรศัพท์ ยี่ห้อ/รุ่น infinix สีเทา จำนวน 1 เครื่อง
4.โทรศัพท์ ยี่ห้อ/รุ่น OPPO สีดำ จำนวน 1 เครื่อง
5.โทรศัพท์ ยี่ห้อ/รุ่น VIVO สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง
6.กุญแจรถยนต์ จำนวน 2 ดอก
สถานที่จับกุม บริเวณ กม.314 ถนนพหลโยธิน ทล.1 (ขาเข้า) ต.พยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ชั้นในอยู่บ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์), เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี), เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. (อยุธยา), เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) บูรณาการร่วมกัน สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์ จำนวนประมาณ 1 – 2 คันขับขี่ผ่านมาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนัก
ที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดพบ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ขับขี่ตามกันมาและสังเกตุเห็นว่ามีน้ำหนักที่รถมากว่ารถยนต์ปกติ โดยต้องสงสัยมีพิรุธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินไปหาที่รถยนต์ดังกล่าวพร้อมแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบรถยนต์รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ
จากการตรวจสอบพบนายทองพีฯ สัญชาติไทย ผู้ถูกจับที่ 1 (แสดงตนเป็นผู้ขับขี่) แสดงท่าทางมีพิรุธ และมีการใช้โทรศัพท์ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์เครื่องดังกล่าว พบว่า นายทองพีฯ ได้ใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับ ผู้ถูกจับที่ 2 ในการบอกเส้นทางในการใช้กระทำความผิดในครั้งนี้และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดได้ทำการตรวจสอบ รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีขาว เบื้องต้นสอบถามชื่อผู้ขับขี่ชื่อนายยะฯ สัญชาติ ไทย ผู้ถูกจับที่ 2 และมีผู้ถูกจับที่ 3 – 10 นั่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวผู้ถูกจับพร้อมรถยนต์ทั้ง 2 คันมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ พบว่า ผู้ถูกจับที่ 3 – 10 เป็นคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การยอมรับว่าตนได้ขับขี่ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีดำ โดยได้ขับขี่นำรถยนต์กระบะ ของผู้ถูกจับที่ 2 มาจาก จ.ลำพูน และจะขับขี่นำรถของผู้ถูกจับ 2 ไปส่งที่ จ.สิงห์บุรี โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งสาม และจะได้ค่าจ้างจำนวน 8,000 บาท/ครั้ง ตนเองทราบดีอยู่แล้วว่าในรถยนต์กระบะของ ผู้ถูกจับที่ 2 มีแรงงานต่างด้าวอยู่ภายในรถและแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง และจากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 2 ให้การยอมรับว่า ตนได้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อ TOYOTA สีขาว โดยนำผู้ถูกจับที่ 3 – 10 มาจาก จ.ลำพูน โดยจะนำผู้ถูกจับที่ 3 – 10 ไปส่งที่ จ.กรุงเทพมหานคร โดยกระทำแบบนี้เป็นครั้งที่สอง ได้ค่าจ้างจำนวน 2,000 บาท/คน และทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้ถูกจับที่ 3 – 10 เป็นแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง โดยมี นายทองพีฯ ขับรถนำตลอดเส้นทางจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึง ได้สอบถามผู้ถูกจับที่ ผู้ถูกจับที่ 3 – 10 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 7,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 – 2 “ร่วมกัน รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และแจ้งข้อกล่าวหาที่ 3 – 10 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพยุหะคีรี ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
เตือนภัย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง มีนโยบายกวดขันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท ตลอดจนจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายอาญา ตลอดจนกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด หากฝ่าฝืนมีโทษหนัก