รวบ ‘เสือไม้โอรส’ โจรตระเวนลักทรัพย์พระในวัด ฉากหน้าเป็นนักบุญ

สืบนครบาล รวบ ‘เสือไม้โอรส’ โจรตระเวนลักทรัพย์พระในวัด ฉากหน้าเป็นนักบุญ พบมีประวัติปล้นทรัพย์ลักทรัพย์กว่า 7 คดี

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน.โดยได้รับการแจ้งผ่านเพจสืบนครบาล

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศราวุฒิ พิมพ์สุภาพร สว.ฯ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ร.ต.อ.พงศกร อินทร์คง, ร.ต.ต.วิทยา ศรีกระจ่าง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., ด.ต.สุขสันต์ คุณแสน ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกับ สน.บางคอแหลม

จับกุมตัวนายอดิศักดิ์ อายุ 38 ปี ตามหมายจับดังนี้

1.หมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 937/2567 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2567 ความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้บคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ”

2.หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.1045/2567 ลงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกเเก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุม”

จับกุมได้ที่บริเวณห้องเช่า ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ของ สน.บางคอแหลม กล่าวคือ เมื่อวัน 25 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุวัดเกียรติประดิษฐ์ เพื่อทำการตรวจสอบหาวัตฤพยานในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาคนร้ายที่มาก่อเหตุ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบร่องรอยของการถูกงัดแงะของตัวล็อคกุญแจประตูทางเขากุฏิ ของพระสมชาย และร่องรอยการรื้อค้นภายในภูฏิ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ทำการสอบถามพระสมชายฯ และพระรูปอื่น เพิ่มเติมว่ามีบุคคลแปลกหน้าเข้ามายังบริเวณวัดหรือไม่ ซึ่งมีพระภายในวัดให้การว่า ก่อนพากันออกไปบิณฑบาต เมื่อเวลา 05.45 น. ได้มีชายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ-แดง ไม่ทราบทะเบียน เข้ามายังบริเวณวัด ได้จอดรถและอยู่ใกล้กันกับบริเวณกุฏิ ที่เกิดเหตุในส่วนของ สน.ปทุมวัน ด้วยเมื่อวันที่ 19 ต.ค.2567 ได้มีพระแล อายุ 74 ปี พระลูกวัดสระบัว ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในกุฏิ ทำให้เงินสดประมาณ 250,000 บาท สูญหายไป ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่กุฏิพระภายในวัดสระบัว แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2567

หลังจากได้รับแจ้งเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกี่ยวข้อง สืบสวนหาข่าวคนร้าย จนต่อมาทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 คดี คือ นายอดิศักดิ์ โดยอาศัยช่วงที่พระออกบิณฑบาตในช่วงเช้าตรู่ ฝ่ายสืบร่วมกับพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับนายอดิศักดิ์  และต่อเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ได้ร่วมกับ สน.บางคอแหลม จับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากรรมของ “นายอดิศักดิ์” ปรากฏรายละเอียดดังต่อไปนี้

-เลขคดี 906/2546 ข้อหา ปล้นทรัพย์ผู้กระทำแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธฯ สน.ตลิ่งชัน

-เลขคดี 282/2559 ข้อหา ลักทรัพย์ สภ.สามชุก

-เลขคดี 283/2559 ข้อหา ลักทรัพย์ สภ.สามชุก

-เลขคดี 284/2559 ข้อหา ลักทรัพย์ สภ.สามชุก

-เลขคดี 285/2559 ข้อหา ลักทรัพย์ สภ.สามชุก

-เลขคดี 153/2559 ข้อหา ลักทรัพย์ สภ.ศรีประจันต์

-เลขคดี 275/2567 ข้อหา ตัวการลักทรัพย์ สน.บางคอแหลม

– ปี 2567 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถาน สน.ปทุมวัน

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหารับสารภาพทั้ง 2 คดี โดยให้การว่าปกติตนจะขับไรเดอร์ และตระเวนเข้าออกตามวัดเพื่ออาศัยจังหวะ ที่พระออกไปบิณฑบาตหรือปลอดคน จากนั้นจะลองใช้ไขควงงัดกุฏิวัดต่างๆ มีทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ จากนั้นจะเข้าไปรื้อค้นเอาทรัพย์สิน ส่วนเงินที่ได้ ตนนำไปใช้สอยต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จากนั้นได้ตัวผู้ต้องหาส่ง สน.บางคอแหลม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากข้อห่วงใยถึงพระสงฆ์ สามเณร ตามวัด ศาสนสถาน ให้ระวังโจรที่มาในคราบนักบุญ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่พระสงฆ์ต้องออกไปบิณฑบาต หรือทำกิจของนอก ควรล็อคประตูให้แน่นหนา นำของมีค่าใส่ตู้เซฟ เพราะวัดเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลาจึงทำให้โจรเข้าถึงกุฏิได้ง่าย แนะนำให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุม และตรวจสอบว่าใช้การได้อย่างสม่ำเสมอ หากมีเหตุด่วนเหตุร้าย ให้รีบโทรหา 191