ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่มใหญ่อ้างเป็นนักบวชใจบุญ ตุ๋นเงินเหยื่อหลอกจะนำเงินไปซื้อเสื้อผ้าบริจาคคนยากจน
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป, พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.6 บก.ป. , พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.แดนรบ สมัยชูเกียรติ สว.กก.6 บก.ป., ด.ต.พิพักษ์ ชินพงษ์, ด.ต.สมพงษ์ ศรีชู, ด.ต.จำรูญ ยุ่งยั้ง, จ.ส.ต.สิรายุทธิ์ พุดดอกขาว, จ.ส.ต.สุทัส สุขกำเนิด, จ.ส.ต.นนทวัตร์ เศรษฐสุข, จ.ส.ต.ปรีชา สว่างรัตน์ และ ส.ต.อ.เกรียงไกร บัวศรี ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายสมปองฯ อายุ 54 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ
1.ศาลแขวงนนทบุรี หมายจับที่ จ.415 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
2.ศาลแขวงนนทบุรี หมายจับที่ จ.414 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
สถานที่จับกุม บ้านแห่งหนึ่ง ถ.ดอนรุน ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2563 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี ให้ดำเนินคดีกับนายสมปองฯ และนางไอซ์ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) คู่สามีภรรยา ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” โดยผู้ต้องหาทั้งสองสร้างเรื่องเท็จขึ้นเพื่อหลอกเอาเงินจากผู้เสียหายไป
โดยรายแรก ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าเนื่องจากญาติได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์รักษาตัว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ โดยผู้ต้องหาต้องนำธนบัตรไปพับนกเพื่อภาวนาให้หายจากอาการเจ็บป่วย และได้บอกอีกว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้นับถือศาสนาคริสต์และตนกำลังบวชอยู่ ใช้เงินได้วันละไม่เกิน 3,000 บาท จึงได้ให้ผู้เสียหายช่วยหาเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสองก่อนเมื่อสึกจากการบวชก็จะนำมาคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายบอกว่า ตนไม่มีเงินมีเพียงรถยนต์ของบุตรสาว ผู้ต้องหาจึงแนะนำให้ผู้เสียหายเอารถยนต์ไปรีไฟแนนซ์แล้วนำเงิน มาให้ตนก่อนและผู้ต้องหาทั้งสองจะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อด้วยตนเอง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เมื่อได้เงินมาแล้ว ผู้เสียหายได้นำเงินจำนวน 130,000 บาท มาให้กับผู้ต้องหา
รายที่สอง ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่าจะนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับคนยากจน แต่เนื่องจากผู้ต้องหา นับถือศาสนาคริสต์และได้บวชในศาสนาคริสต์ โดยระหว่างบวชจะใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 3,000 บาท หากผู้เสียหายมีเสื้อผ้าอยู่แล้วจะนำไปแจกให้กับคนยากจนก่อนหลังจากที่สึกแล้วจะนำเงินมาชำระค่าเสื้อผ้าให้ จากนั้นผู้เสียหายไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมาให้ ซึ่งค่าเสื้อผ้ามูลค่า 5,000 บาท ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2562 ผู้ต้องหาได้บอกกับผู้เสียหายอีกว่าจะนำเสื้อผ้าไปบริจาคที่ต่างจังหวัด โดยอ้างเหตุผลเดิมเหมือนเช่นครั้งก่อน ผู้เสียหายจึงได้ไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จำนวน 20,000 บาท เพื่อเอาไปให้ ผู้ต้องหานำไปบริจาค ต่อมาช่วงเดือนมิถุนายน 2562 ผู้ต้องหาออกอุบายบอกกับผู้เสียหายว่าลูกน้อง 2 คน ได้เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาจึงนำเสื้อผ้าไปแจกให้กับผู้ที่มาร่วมงานศพ โดยอ้างหตุผล เดิมว่า กำลังบวชอยู่ไม่สามารถใช้เงินได้เกินวันบละ 3,000 บาท หลังจาที่สึกออกมาจะนำเงินมาชำระให้ ภายหลัง ผู้เสียหายหลงเชื่อยังนำผู้ต้องหาไปซื้อเสื้อผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และที่อื่นๆ อีก 13 ครั้ง รวมมูลค่าทั้งหมด 485,500 บาท
จากนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาพอสมควรผู้เสียหายทั้ง 2 ราย จึงได้ติดต่อทวงถามเกี่ยวกับเงิน จำนวนดังกล่าวแต่ผู้ต้องหาทั้งสองก็ได้บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาจนไม่สามารถติตต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกผู้ต้องหา หลอกลวง โดยทราบว่าผู้ต้องหาไม่ได้บวชในศาสนาคริสต์ ที่จะต้องใช้เงินได้ไม่เกินวันละ 3,000 บาท จริง และลูกน้องก็ไม่ได้ถึงแก่ความตาย ไม่ได้นำเอาเสื้อผ้าไปบริจาคตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงเข้า แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตรวจ กก.6 บก.ป. สืบทราบว่านายสมปองฯ ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัย อยู่กับมารดาในพื้นที่ จ.พัทลุง จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว