เมื่อวันที่27 กันยายน 2567 พล.ต.ท..ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ , ร.ต.อ.ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1ฯได้ร่วมกันจับกุมตัว
นายพัฒนรัตน์ หรือ “ตุ่น” อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา เขตสะพานสูง กรุงเทพ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.543/2567 ลงวันที่ 24 กันยายน 2567
ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ผู้อื่น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม” จับกุมได้ที่ ณ ภายในบ้านพักของผู้ถูกจับ แขวงราษฎร์พัฒนา เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์กล่าวคือ ก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายมีประกาศ โพสต์ ว่ามีความประสงค์จะขอซื้อรถยนต์มาใช้ในกิจวัตรประจำวันทั่วไป จนกระทั่งได้มีนายหน้า เป็นหญิง ลักษณะคล้ายทอม เข้ามาติดต่อแจ้งว่าสามารถติดต่อและจัดหารถยนต์ตามที่ผู้เสียหายต้องการได้ โดยเป็นรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีเทาดำ โดยได้ตกลงซื้อรถคันดังกล่าว ต่อมาเมื่อถึงกำหนดนัดหมายและส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าว ปรากฏว่า นายหน้าสาวทอม ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งมอบรถยนต์พร้อมกุญแจจำนวน 1 ดอกให้แก่ผู้เสียหาย จากนั้นผู้เสียหายได้ขับรถมาจอดไว้บริเวณหน้าบ้านของตน จนกระทั่งต่อเวลาตามวันเวลาเกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหากับพวก ได้แอบขับขี่รถยนต์ที่จอดบริเวณบ้านผู้เสียหาย แล้วกระทำการลักทรัพย์ขับขี่รถยนต์ของผู้เสียหายออกไป (เชื่อว่าเป็นกุญแจที่ผู้ต้องหากับพวกจัดทำขึ้นมาใหม่) จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามาทำการลักรถยนต์ของผู้เสียหายไปเป็นกลุ่มเดียวกันกับบุคคลที่จัดหาและนำรถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหายจริง จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหากับพวก ต่อ พงส.สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการลักรถยนต์ของผู้เสียหายแต่อย่างใด แต่รับว่าเป็นผู้จัดหารถยนต์มาขายต่อให้แก่ผู้เสียหายจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากจากการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ถูกจับมีพฤติกรรมการรับซื้อขาย และรับจำนำรถยนต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งรถยนต์ดังกล่าวอาจจะเป็นรถยนต์ที่ได้ใช้ หรือได้มาจากการกระทำควาผิดหรือไม่ อย่างไร จึงจะได้สืบสวน ขยายผลต่อไป จึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ธรรมศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนไปยังเจ้าของ/ผู้ครอบครองยานพาหนะทุกท่านที่มีความประสงค์จะขายหรือจำนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ควรให้ความสำคัญ ระมัดระวัง ในการตรวจสอบและดำเนินการโดยเฉพาะการทำนิติกรรมสัญญาขอให้มีความรอบคอบและรัดกุม เพื่อมิให้ท่านตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพหรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยโดยการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งอาจจะเป็นความผิดตามกฎหมายซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ แล้วแต่กรณี หรือาหากท่านพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ ผบ.ตร. และ ผบช.น.