บุกเปิดตู้คอนเทนเนอร์ลอบนำเข้า “บุหรี่ไฟฟ้า” ล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 100 ล้าน

นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยพลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี (โฆษกกรมศุลกากร) และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันเปิดตู้สินค้าที่คาดว่าภายในจะมีบุหรี่ไฟฟ้า ภายในท่าเรือแห่งหนึ่ง ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ

โดยตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวเป็นตู้ที่กรมศุลกากรล็อกไว้ เนื่องจากมีสายลับแจ้งว่ามีการลักลอบซุกซ่อนและนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า โดยตู้ดังกล่าว เดินทางโดยเรือเข้ามาที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 พ.ค.67 ซึ่งตามขั้นตอนผู้นำเข้าต้องประสานมารับสินค้าเพื่อเสียภาษี แต่กลับพบว่าไม่มีการมาทำเรื่อง ทางกรมศุลกากรจึงส่งหนังสือ ให้เจ้าของมาดำเนินการภายใน 30 วัน ในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา แต่เจ้าของก็ยังไม่ดำเนินการ ทำให้กรมศุลกากรจำเป็นต้องอายัดสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาทำการเปิดตู้เพื่อตรวจสอบสินค้าภายในว่าเป็นสินค้าประเภทใดและถูกกฎหมายหรือไม่

ภายหลังจากการ การตรวจค้นสินค้าภายใน ตู้คอนเทนเนอร์น้ำหนักกว่า 30 ตัน โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็พบวัตถุต้องสงสัย ห่อหุ้มด้วยพลาสติกสี เขียว ขี้ม้า จำนวน มาก ซึ่ง ทั้งหมดถูก เก็บไว้บริเวณ กลาง ตู้คอนเทนเนอร์ ป้องกันการ เปิดตู้ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบ สินค้าประเภทพลาสติกและกระดาษ ซึ่งเป็นสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย ปะปน โดย มีการ ใช้สินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมายไว้บริเวณหัวท้าย ตู้คอนเทนเนอร์

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า จากการตรวจค้น พบกล่องบรรจุสินค้าห่อหุ้มพลาสติกสีเขียวขี้ม้าจำนวนกว่า 100 กล่อง มีทั้งกล่องใหญ่และกล่องเล็ก ภายในจะมี port บุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงน้ำยาบุหรี่ กล่องละจำนวน 600 ชิ้น จากการตรวจสอบพบว่าน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่พบในวันนี้เป็นนิโคติน 100% ซึ่งมีอันตรายสูงมากโดยเฉพาะหากผู้สูบนั้นเป็นเยาวชน สินค้าที่พบในวันนี้มีหลากหลายยี่ห้อ

ด้านนายกองตรีธนกฤตจิตอารีรัตน์ ผู้ช่วย รัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า pot บุหรี่ไฟฟ้า ทั้งส่วนหัว และ ตัวพอที่สมบูรณ์ และน้ำยา บุหรี่ ไฟฟ้า มากกว่า 100,000 ชิ้น ซึ่งถือเป็นการจับกุมที่มากที่สุด ในรอบปีที่ผ่านมา มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท จากการตรวจสอบพบว่า สินค้าดังกล่าวมีการสำแดงว่าเป็นพลาสติก 400,000 ชิ้น แต่เมื่อเปิดภายในตู้ก็พบว่ามีบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักลอบนำเข้ามาด้วย

ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าล็อตนี้ซึ่งถือเป็นล็อตใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการจับกุมมาพบว่าเจ้าของเป็นคนจีนซึ่งเป็นผู้ค้ารายใหญ่ อาศัยอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยทำมาแล้วเป็นเวลากว่า 2 ปี และสินค้าล็อตนี้ เป็นการขยายผลมาจากการจับกุม บุหรี่ไฟฟ้าในโกดังพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา

นายอัจฉริยะ ยังให้ข้อมูลอีกว่า มีผู้ค้ารายใหญ่ 3 เจ้า ที่ลักลอบนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในประเทศ คือ คนจีนที่เป็นเจ้าของบุหรี่ไฟฟ้าในล็อตนี้ ส่วนอีก 2 เจ้า คือ บุคคลที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเครือข่าย ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร