เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีปิดการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 66 ซึ่งมาจากทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และภาคเอกชน จำนวน 288 คน
นายภูมิธรรม กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่ามาแสดงความยินดีกับรุ่นน้องเพราะตนเป็น วปอ.รุ่น 46 ห่างกัน 20 ปี ขอแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษา และขอแสดงความชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัลเอกสารวิจัย 10 กลุ่ม วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เป็นสถาบันการศึกษาสูงสุดของกระทรวงกลาโหม ที่ประสาทวิทยาการเกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักรให้แก่ผู้บริหาร ฝ่ายทหาร พลเรือน รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคการเมือง และบุคคลทั่วไป รวมถึงนักศึกษาชาวต่างประเทศ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของชาติ
เมื่อวานตนมากับนายกรัฐมนตรี ร่วมฟังผลงานวิจัยของนักศึกษาทุกคน ก็ขอชื่นชมเพราะได้รับความรู้ และสิ่งสำคัญคือก้าวทันโลก ขณะนี้เราสู้กับการเปลี่ยนแปลงของโลก เราต้องตื่นตัว เชื่อว่าด้วยสติปัญญาของทุกคนร่วมกัน จะสามารถที่จะสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ เมื่อวานสิ่งที่ได้รับฟังเกี่ยวกับการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ หัวข้อ “Thailand, next เปลี่ยนใหญ่ประเทศไทย” ซึ่งมีการระดมความเห็นออกมาได้น่าสนใจมาก ตนจึงขอเอกสารกลับไปศึกษา เพราะเนื้อหาไม่ได้ใช้ประโยชน์แค่สถาบันทหารเท่านั้น แต่เป็นเรื่องที่จะช่วยกำหนดทิศทางของประเทศได้ทั้งหมด ถือว่าดีต่อการพัฒนาประเทศที่เปลี่ยนไป
การสำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ เป็นเกียรติและมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคน ซึ่งได้ร่วมกันเรียนรู้จากประสบการณ์ที่มีคุณค่า สร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้ง อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือแน่นแฟ้นกับเพื่อนร่วมรุ่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการทำงานร่วมกัน ซึ่งการทำงานเป็นทีมไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว หรือหน่วยงานเดียว แต่การรวมพลังของทุกคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีความรักชาติ ต้องการการเปลี่ยนแปลงของชาติให้ดีขึ้น แม้จะมีความแตกต่างทางวิธีการบ้าง เพราะฉะนั้นการมาเรียนที่นี่นอกจากจะได้เปิดโลกความรู้ใหม่ๆ ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน จะทำให้สังคมสามัคคี สามารถรวมพลังช่วยกันต่อสู้กับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศได้
การจบการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ ทุกคนก็จะไปมีตำแหน่งหน้าที่เติบโตขึ้น พร้อมยกตัวอย่าง กรณีน้ำท่วม จ.เชียงราย ที่แก้ปัญหาได้ดีเพราะผู้บริหารหลายหน่วยงานเป็นเพื่อน วปอ. ด้วยกัน สามารถประสานและเชื่อมโยงการทำงานได้ง่าย เพราะเคยร่วมงานกันมา การมีเครือข่ายและการมีเพื่อนที่อยู่ร่วมในสถาบัน ไม่ได้เป็นปัญหา หรือเป็นด้านลบ แต่กลับเป็นด้านบวก ที่ส่งเสริมให้การทำงานในแง่มุมต่างๆกว้างขวาง เป็นหัวใจสำคัญในการแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าหมายได้เป็นอย่างดี