“ซิมม้า” อีกหนึ่งภัยร้ายที่ทางรัฐบาล และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีนโยบายและมาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเข้มขวดและเร่งด่วน เนื่องจากเป็นหนึ่งในวิธีการติดต่อที่แก็งค์ call centre ใช้เป็นหนทางในการก่อเหตุ ติดต่อ หลอกลวง กลุ่มผู้เสียหายประชาชนในสังคมไม่เว้นแต่ละวัน สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.ฯ พ.ต.ต.สุนทร ทองพงษ์เนียม สว.กก.สส.1ฯ ,ร.ต.อ. ปรัชญา โคตรสาขา รอง สว.กก.สส.1 ได้จับกุมตัว นางสาวเกศินีหรือออย อายุ 43 ปี โดยถูกกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายหมายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้”
พร้อมตรวจยึดของกลางในคดี ซิมโทรศัพท์มือถือเคลื่อนที่ซึ่งลงทะเบียนของบุคคลอื่น พร้อมใช้ (ซิมม้า) จำนวน 100 ซิม จับกุมได้ภายใน ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ย่านบางแค กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบประวัติการต้องคดีอาญาของผู้ถูกจับ ปรากฏว่า เคยต้องข้อหา “ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่จัดท่า เอกสารโฆษณาหรือชี้ชวนเกี่ยวกับรายการนำเที่ยวตามที่กฎหมายกำหนด” ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร เมื่อปี พ.ศ.2561 โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการสืบสวนและจับกุมกลุ่มเป้าหมายผู้ที่พฤติการณ์ลักลอบขายซิมโทรศัพท์มือถือที่มีการลงทะเบียนแล้วให้แก่บุคคลอื่นซึ่งไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ (ซิมผี) ในช่องทางออนไลน์ จนพบว่า ได้มีกลุ่มเฟสบุ๊คกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 8,000 ราย ประกาศ ชักชวน เสนอขาย จำหน่าย ซิมม้าลงทะเบียนพร้อมใช้ให้แก่ลูกค้าและบุคลทั่วไป บางรายมีการโพสต์จำหน่าย บัญชีม้า ซิมผี ครบชุด โดยมีการให้บริการพร้อมส่งสินค้าทั่วประเทศ จากการตรวจสอบพบผู้ถูกจับเป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวได้มีการโพสต์และคอมเม้นประกาศ เสนอขาย จำหน่ายซิมโทรศัพท์ซึ่งจดทะเบียนพร้อมใช้ในราคาซิมละ 150-160 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบและวางแผนการล่อซื้อจับกุมผู้ถูกจับรายดังกล่าว โดยได้นัดหมายส่งมอบซิมม้าและนัดจ่ายเงิน ภายในห้างสรรพสินค้าดังแห่งหนึ่ง ย่านบางแค กรุงเทพ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ถูกจับพร้อมตรวจยึดซิมโทรศัพท์(ซิมม้า) ของกลางได้จำนวน 100 ซิมพร้อมของกลางอื่นๆ รวม 7 รายการ
จากการซักถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนประกอบอาชีพเป็นไกด์นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ แต่มาช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ดี ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วง low season ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนเมื่อก่อน จึงทำให้รายได้ลดน้อยลง ตนจึงใช้โอกาสที่ตนเคยติดต่อสั่งซื้อซิมโทรศัพท์ลงทะเบียนพร้อมใช้ ที่เคยเสนอขายให้แก่ลูกค้านักท่องเที่ยว มาโพสต์เสนอขายในกลุ่มเฟสบุ๊คดังกล่าว โดยซิมโทรศัพท์ของกลางที่ตนนำมาเสนอขาย และจำหน่ายนั้น มีเพื่อนที่เคยทำงานไกด์ด้วยกันแนะนำและติดต่อให้ไปซื้อกับร้านที่รู้จัก ในราคาซิมละ 120 บาท โดยได้กำไรประมาณ 50-60 บาทต่อซิม จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สน.ภาษีเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้กล่าวเตือนไว้ว่า กรณีบุคคลใดที่มีความคิดในการแสวงหาประโยชน์หรือเป็นช่องทางในการหารายได้เสริม โดยการเป็นธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการเสนอขาย หรือจำหน่าย ซิมผีนั้น ขณะนี้การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วย พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 ที่ผ่านมา โดยการโฆษณา เป็นธุระจัดหา บัญชีม้า หรือ ซิมผี มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งถือได้ว่า “ได้ไม่คุ้มเสีย” ดังนั้นควรคิดให้ดีและรอบคอบก่อนตัดสินใจหรือหากท่านใดพบการกระทำความผิดสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.