เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 15 กันยายน 67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นาย วรุต หรือออฟ อายุ 35 ปี อดีตพนักงานขับรถแบคโฮ ไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความขอให้ช่วยติดตามคนที่หลอกตนเองไปทำงานฝั่งปอยเปตประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะให้เงินเดือนๆละ 20,000 บาท เพื่อไปทำหน้าที่เป็นแอดมินคอยบริการ ตนเห็นว่ารายได้ดี จึงเดินทางไปทำงานตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 67 แต่ปรากฏว่ากลับถูกทรมาน ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงตี 3 ตี 4 เมื่อดื้อรั้นก็ถูกจับก้อนผม ,กระบองตี , ช็อตด้วยไฟฟ้า (โชว์แผลที่ถูกช็อตด้วยไฟฟ้าให้ดู)
นายออฟ เล่าว่า มีนายหน้าหญิงสาวชื่อบี อายุ 40 ปี ได้มาติดต่อ ชักชวนให้ตนไปทำงานที่ฝั่งปอยเปต ประเทศเพื่อนบ้านตรงข้ามตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว มีเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาท อาหารครบ 3 มื้อ ทำงาน 8:00 น. ถึง 17:00 น. ตนเห็นว่า เป็นงานดีไม่เหนื่อยมากจึงตอบตกลงจนกระทั่งถึงวันเดินทาง 25 สิงหาคม 67 ได้มีรถแท็กซี่ขับมารับตนเองพร้อมคนในรถอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน เมื่อถึงตลาดโรงเกลือได้มีนายทุนคนจีนขับรถ Hyundai พาพวกตนทั้ง 4 คนลงโฟม ลอยน้ำใช้เชือกดึงข้ามไปยังฝั่งปอยเปต
ซึ่งที่นั่นเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นเนื้อที่กว้างขวางล้อมรอบด้วยลวดหนามมีคนไทย คนอินเดีย และนายทุนคนจีนสีเทา อยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก ตนกับเพื่อนๆถูกใช้งานเกินเวลาที่ตกลงกันไว้ ทุกคนจะถูกยึดโทรศัพท์ เอกสารหลักฐานในตัวหมด เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกมาทำงานให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตนกับเพื่อนคนไทย กว่า 20 คน อาศัยช่วงจังหวะของคืนวันที่ 11 กันยายน 67 เวลา 22.00 น ปีนกำแพงลวดหนามหนีตายออกมาแบบไม่คิดชีวิต ช่วงนั้น รปภ. ของกลุ่มจีนสีเทา พบเห็นใช้ไฟฉายสปอร์ตไลท์ส่องใส่พวกตน กลุ่มที่หนีทั้งหมดต่างแยกกันหนีตายแบบตัวใครตัวมัน ตนเองมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านชาวเขมรซึ่งเป็นผัวเมียสูงอายุ 2 คน โดยขอน้ำขอข้าวกิน และพาตนเองมาที่ริมแนวเขตชายแดน ซึ่งเป็นคลองเล็กๆเต็มไปด้วยขี้เลนน้ำเน่า ตนเองต้องฝืนใจว่ายน้ำข้ามมาจนมาถึงฝั่งโรงซักตลาดโรงเกลือฝั่งไทย ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านจนกระทั่งมีผู้ใจบุญคนหนึ่ง เป็นคุณลุงสงสารตีตั๋วรถตู้ให้ตนเอง 250 บาท เพื่อมาลงหมอชิตพอถึงฟิวเจอร์พาร์คจึงตัดสินใจลงและเดินเท้าเรื่อยมาจนกระทั่งมาถึง สภ.เมืองนนทบุรี ในคืนนี้ เพราะคิดว่าฟิวเจอร์พาร์คน่าจะใกล้กว่าหมอชิต โดยตนจะมาหาน้าชายที่คอนโดย่าน ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพราะคิดว่าน่าจะใกล้กว่า
ตนไม่มีโทรศัพท์เอกสารใดๆในตัวเพราะถูกกลุ่มจีนสีเทายึดไปหมด และก็ไม่รู้ว่าเพื่อนๆกว่า 20 คน ที่หนีกันมาในกลุ่มมีผู้หญิง 3 คน จะเป็นอย่างไรบ้าง รอดเงื้อมมือหรือถูกจับกลับไปก็ไม่รู้ ส่วนตนถือว่าโชคดีที่หลบหนีมาได้ และเดินเท้าเพื่อจะมาหาน้าชาย ซึ่งทำงานอยู่ในกระทรวงแห่งหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดลพบุรี ส่วนเรื่องคดีก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มคนที่ถูกหลอกไปทำงาน ตนสามารถพาไปชี้จุด เพราะจำสถานที่ได้อย่างแม่นยำ ไม่อยากให้เพื่อนๆคนไทยถูก หลอกไปเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายวุรต กล่าว