สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2566 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายใช้บัญชีเฟซบุ๊กได้พบเพจชื่อว่า “Trading Thailand” ลงโฆษณาชักชวนให้ลงทุน ผู้เสียหายมีความสนใจจึงเข้าไปสอบถาม และได้รับลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนทาง Line พบว่าเป็นบัญชีไลน์ชื่อ “Banpu Service” มีคนร้ายเข้ามาแนะนำว่าคือ “บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทบ้านปู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” และแนะนำตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการได้ส่งข้อความพูดคุย แนะนำการลงทุน และชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นผ่านระบบออนไลน์
เมื่อลงทุนในช่วงแรกสามารถทำกำไรได้จริง จึงได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนเพิ่มอีกหลายครั้ง แต่ปรากฎว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และยังหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีกหลายครั้ง โดยอ้างเป็นค่าดำเนินการด้านต่างๆ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงดำเนินการแจ้งธนาคารเพื่อขออายัดบัญชี และเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ร่วมกันหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไป โดยมูลค่าความเสียหายรวมเป็นเงิน จำนวน 2,841,242.99 บาท จากการตรวจสอบยังมีความเชื่อมโยงกับ CASE ID คดีหลอกให้กู้ยืมเงินออนไลน์ของ สน.ทุ่งมหาเมฆ บก.น.5 บช.น. มูลค่าความเสียหายจำนวน 43,500.11 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสองคดี จำนวน 2,884,743.10 บาท
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ชินพันธ์ พราหมณ์พันธุ์ รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.สนธยา บัวแพง รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.นรวัตน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.ศุภกร ธัญกรรม รอง ผบก.สอท.4 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก. สอท.4 นำโดย พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4, พ.ต.ท.ชนินทร์ คงดิษฐ์ รอง ผกก.4 บก.สอท.4, พ.ต.ท.ปุรเชษฐ์ รัตนวิจิตร รอง ผกก.4 บก.สอท.4, พ.ต.ท.ณวดล ภาโส, พ.ต.ต.วิสุทธิ์ ครุฑจันทร์, พ.ต.ต.อาณัติ เข็มทอง สว.กก.4 บก.สอท.4 ได้ขออนุมัติต่อศาลอาญาเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดจำนวน 14 คน ซึ่งได้ทำการจับกุมไปแล้ว จำนวน 8 คน โดยพบว่าผู้ต้องหาจำนวนหนึ่งได้หลบหนีไปอยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเร่งจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สอท.4 สามารถจับกุม นางสาวณัฐิดา อายุ 29 ปี ชาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมีไช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด ”