รวบบัญชีม้าแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกหญิงสูงวัย บอกว่าจะโอนเงินดอลลาร์ให้ แต่ต้องจ่ายภาษีให้ก่อน

สืบนครบาล รวบบัญชีม้าแก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกหญิงวัย 70 ปี บอกว่าจะโอนเงินดอลลาร์ให้ แต่ต้องจ่ายภาษีให้ก่อน

ตามนโยบายของ  พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้เร่งปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดีออนไลน์ ซึ่งสร้าง ความเดือดร้อนของประชาชนโดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาลพบว่าเฟซบุ๊ค ชื่อว่า “สรรเสริญ อภิชาติ” หลอกว่าเป็นทหารที่หมดสัญญาที่ทำอยู่ในประเทศเยเมน จะส่งเงินดอลลาร์มาให้ผู้เสียหาย แต่ให้ผู้เสียหายเสียภาษีให้กับรัฐบาลไทย เป็นจำนวนเงิน 23,000 บาท

เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ ,ร.ต.อ.พงศธร อารีย์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น.เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.

จับกุมนายธีรภัทร อายุ 22 ปี บุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรีที่ 706/2567 ลงวันที่ 9 กันยายน 2567 ซึ่งกระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” จับกุม บริเวณที่จอดรถ บ้านเอื้ออาทรสวนพูลพัฒนา แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม.

พฤติการณ์ในคดีผู้เสียหาย เป็นผู้หญิงอายุ 70 ปี มาพบพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ได้มีข้อความจาก เฟซบุ๊ค ชื่อว่า “สรรเสริญ อภิxxติ” มาพูดคุยกับผู้เสียหาย บอกว่าเป็นทหารที่หมดสัญญาที่ทำอยู่ในประเทศเยเมน จะส่งเงินดอลลาร์มาให้ผู้เสียหาย แต่ให้ผู้เสียหายเสียภาษีให้กับรัฐบาลไทย เป็นจำนวนเงิน 23,000 บาท และให้ผู้เสียหายแบ่งจ่ายโอนเป็น 2 งวด ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารตนเอง ไปยังบัญชีธนาคารคนร้าย(บัญชีม้า) จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 15,000 บาท , ครั้งที่ 2 จำนวน 8,000 บาท รวมเป็นเงิน จำนวน 23,000 บาท เมื่อโอนเงินแล้ว ต่อมาไม่สามารถติดต่อกับบุคคลดังกล่าวได้ จึงเชื่อว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอหมายจับ นายธีรภัทรฯ เจ้าของบัญชีรับเงินดังกล่าว

ผู้ต้องหาให้ถ้อยคำในชั้นจับกุมว่า เมื่อประมาณปี 2566 ผู้ต้องหาได้เจอเฟซบุ๊ค จ้างเปิดบัญชี (จำชื่อเฟซไม่ได้ ลบไปแล้ว) เนื่องด้วยขณะนั้น ผู้ต้องหาเดือดร้อนเรื่องเงิน จึงได้ตกลงเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี ผู้จ้างได้ส่งโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมทางพัสดุเอกชน มาให้ผู้ต้องหาลงติดตั้งและทะเบียนแอปพลิเคชั่นผูกกับบัญชีธนาคารทั้ง 3 บัญชีจากนั้นผู้ต้องหาจึงได้ ส่งบัญชีธนาคารพร้อมกับบัตรเอทีเอ็ม และโทรศัพท์มือถือกลับไปให้ผู้จ้าง ทางพัสดุเอกชน ผู้ต้องหาได้ค่าตอบแทน 3000 บาท จากนั้นได้นำส่ง สภ.คูคต ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ขอแจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพโรแมนซ์สแกม หลอกลวงให้รัก หว่านล้อมด้วยคำพูดทำให้หลงรัก ให้ความหวังว่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป มุกเดิมๆของแก๊งโรแมนซ์สแกม ส่วนใหญ่แฝงตัวในแอปพลิเคชันหาคู่ต่างๆ บนโลกออนไลน์ จนคนในสังคมรู้ทันจากการสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูดีน่าเชื่อถือ หลอกว่าเป็นนักธุรกิจ มหาเศรษฐี และออกกลอุบายต่างๆ มาหลอกเพื่อเอาทรัพย์สิน เหยื่อแก๊งโรแมนซ์สแกมมักเป็นคนโสด หย่าร้าง เป็นม่าย เนื่องจากความเหงา อาจเป็นผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง ขาดการดูแลอย่างใกล้ชิดจากบุตรหลาน เป็นสาวใหญ่ที่แสวงหารักแท้ หรืออาจจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่ระแวดระวังตนเอง มองโลกในแง่ดีเกินไป เชื่อคนง่ายจนตกเป็นเหยื่อ ขอให้ท่านมีสติในการใช้สื่อออนไลน์ “ไม่เชื่อ ไม่เร่ง ไม่รีบ ไม่โอน”