เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ, พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี, พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ สั่งการให้ พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พร้อม ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.
ได้จับกุมตัวนายธนรัตน์ อายุ 46 ปี ที่อยู่ ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 57/2567 ลงวันที่ 21 ก.พ. 67 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” จับกุมบริเวณหน้าบ้าน ถ.ริมทางรถไฟสายปากน้ำ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ คือเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2564 เวลา 11.15 น. ผู้ต้องหาหลอกผู้เสียหายร่วมลงทุนเพื่อซื้อขายทองคำ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าจะนำเงินไปซื้อทองเข้าบริษัท ที.อาร์.วี.(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อนำมาขายต่อ เพื่อทำกำไรแล้วแบ่งผลประโยชน์กัน โดยได้ผลตอบแทนที่สูง และรับปากว่าจะดูแลผลประโยชน์ให้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ หลังจากโอนเงินให้แล้วไม่เคยได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่กล่าวอ้าง หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้อีกเลย โดยมูลค่าความเสียหาย ที่โอนให้จำนวนหลายครั้งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 22,656,000 บาท
ในชั้นจับกุมจากการสอบปากคำนายธนรัตน์ รับว่า ได้มีนายปั๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนภรรยาตน มาที่บ้านชักชวน ว่าจะพาไปพบบุคคลหนึ่ง เพื่อจะให้ตนใช้ชื่อในการเปิดบริษัท ตนตกลงเดินทางไปพร้อมกับนายปั๊ก โดยไปพบชายคนดั่งกล่าว(ไม่ทราบชื่อ สกุล) ที่ห้างโลตัสแห่งหนึ่งใกล้ๆบ้าน ชายคนดังกล่าวก็ขอ บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของตนไปถ่ายเอกสารและให้ตนเช็นชื่อรับรองเอกสารพร้อมมอบเงินให้ตนจำนวน 2,000 บาท จากนั้นตนก็กลับบ้าน จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ฝากเตือนนักลงทุน ระวังอย่าหลงเชื่อ หลอกลงทุนทองออนไลน์ สูญเงินมหาศาล ขณะนี้มีมิจฉาชีพปลอมแปลงเฟซบุ๊กเพจร้านค้าทองคำที่มีชื่อเสียง ทำการเผยแพร่โฆษณาชักชวนหลอกให้มีการลงทุน และอ้างว่ามีการ จ่ายเงินปันผลทุกวัน หรือให้ผลประโยชน์เกินจริงเพื่อจูงใจให้หลงเชื่อ ส่งผลให้เกิดความเสียหายกับประชาชนผู้บริโภคจำนวนมาก และสำหรับผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ได้ไม่คุ้มเสีย