จากกรณีในเพจ Facebook ข่าวสารคนปากเกร็ด ได้มีผู้ใช้Facebook ชื่อพี่ส้ม”อายตานิค” / ได้โพสต์คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด ที่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเป็นคลินิกเสริมความงาม พบว่ามีผู้หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาหน้าร้าน แล้วถอดรองเท้าของตัวเอง / คู่สีดำจากนั้นใส่รองเท้าอีกคู่หนึ่งที่อยู่บริเวณหน้าร้านแล้วเดิน ออกไป …. ใน Facebook ยังระบุข้อความอีกว่า”ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้แจ้ง ผู้หญิงในรูปนี้ ทำกิริยานิสัยไม่ดีเดินมาเปลี่ยนรองเท้าของตัวเองที่ใกล้จะขาด แล้วมาเปลี่ยนใส่รองเท้าลูกค้าในร้านที่ถอด วางไว้หน้าร้านเปลี่ยนเป็นของตัวเองเฉย ท่านใดพบเห็นหรือรู้จัก ผู้หญิงคนในรูปนี้ แจ้งให้เค้ามาเปลี่ยนเอารองเท้ามาคืนให้หน่อยนะคะ ทำนิสัยแบบนี้ไม่น่ารักเลย เรื่องอาจไม่ใหญ่โตอะไรมากแต่ทำแบบนี้ กล้องที่ร้านชัดกว่านี้อีกนะคะ ถ้าไม่เอามาคืนจะไปแจ้งความนะคะ”
ขณะที่ทีมข่าวกำลังลงพื้นที่ไปพูดคุยเรื่องนี้ กับผู้โพสต์ ซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามดังกล่าว คือนางสาวเพชรินทร์ โสภาพักตร์ บอกกับทีมข่าวว่าตอนนี้มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาว่าพบเจอหญิงสาวคนนี้แล้ว อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด ทีมข่าวและผู้เสียหายจึงรีบเดินทางไป ปรากฏว่าก็เจอผู้ก่อเหตุจริงๆ นั่งอยู่ในศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด แต่ได้เปลี่ยนชุด จากเสื้อสีขาวเป็นชุดสีชมพู แต่รองเท้า ตรงกับที่ขโมยมาส่วนกระเป๋าตรงกับ ภาพในกล้องวงจรปิด ส่วนลักษณะและหน้าตา ก็เหมือนกับในกล้องวงจรปิด จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เข้ามาตรวจสอบ ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจสภ. ปากเกร็ดก็เดินทางเข้ามา เชิญตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไปพูดคุย ปรากฏว่าเธอก็ยอมรับว่าเธอ เป็นคนใส่รองเท้าจากหน้าร้าน คลินิกความงาม มาจริง และยอมรับว่า ตั้งใจเอารองเท้าของตัวเอง ไปเปลี่ยนแล้วใส่คู่นี้มา เพราะว่ารองเท้า ของตัวเองที่ใส่อยู่นั้นมันขาด จึงเดินไปเลือกใส่มาเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ เชิญตัวหญิงสาวคนดังกล่าวพร้อมผู้เสียหายไปที่สภ.ปากเกร็ด เพื่อตรวจสอบประวัติและลงบันทึกประจำวัน ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยเปิดใจเรื่องนี้ กับนางบัวคำธัญญะเจริญ อายุ 51 ปี ก็ยอมรับกับทีมข่าวตรงๆว่า ตัวเองนั้น ยากจนมาก ไม่มีงานทำ ทุกวันนี้ต้องมานั่งอยู่ที่ ห้างสรรพสินค้าเพื่อรอว่าร้านไหน เขาจะขายของเสร็จแล้วให้เราช่วยยกของ เพื่อเป็นค่าจ้าง ตนได้รับอยู่วันละประมาณ 50 บาท แต่เหตุการณ์เมื่อเช้านี้ ตนไปรับจ้าง ล้างจาน ได้มี พ่อค้าแม่ค้า ให้เงินตนมา 30 บาท ตนก็จะเอาไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่เพราะรองเท้าคู่เก่าคือคู่สีดำมีลายเพชร มันขาด เมื่อเช้า ล้างจานทำงานได้เงินมา 30 บาท ก็ ไปสอบถามแม่ค้าไว้แล้วว่า จะขอซื้อรองเท้าในราคา 50 บาทได้หรือไม่ เพราะตนมีเงินเพียง 30 บาทอีก 20 บาท เดี๋ยวจะเอามาคืน แต่แม่ค้าก็ไม่ให้ จังหวะที่เดินผ่าน คลินิก ก็เลยเข้าไป สลับรองเท้าคู่ใหม่ออกมาโดยเลือกคู่สีขาวเพราะรู้สึกว่า มันน่ารัก และดูนุ่มดี หลังจากที่ก่อเหตุเสร็จ ก็รู้สึกกังวล จนมาถูกที่ร้านเขาจับได้ อยากขอโทษเจ้าของคลินิกและขอโทษเจ้าของรองเท้าด้วยตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่เพราะความยากจนและรองเท้าที่ใส่อยู่มันขาดเดินไม่สะดวกทำให้คิดสั้นตัดสินใจ ทำสิ่งไม่ดีไป ตอนนี้ก็ยินดีคืนรองเท้า ให้กับ เจ้าของ โดยทันที และขออย่าเอาเรื่องเอาความตนเลย เพราะ ไม่อยากติดคุก เพราะตอนนี้ตนอาศัยอยู่กับ กระต่ายที่บ้าน อีก 5 ตัว ถ้าตนติดคุกก็จะไม่มีใครให้อาหารมัน/ และถ้าเป็นไปได้ ขอวิงวอนผ่านสื่อ เลยว่า ตนอยากมีงานทำ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะไม่มีวุฒิการศึกษา ตอนนี้มีเงินติดตัวอยู่ 10 บาท จะเริ่มต้นตรงไหนก็ไม่สามารถเริ่มต้นได้เลย ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านร้างใกล้วัดบ่อ ไม่มีน้ำไฟ ต้องอาศัยออกมาอาบน้ำที่ปั๊ม แล้วมานั่งที่ห้างเพื่อหา รับจ้างทั่วไป และยังบอกอีกว่า ตนมีความสามารถพิเศษ ในเรื่องของการล้างจานเก่ง ทำความสะอาดบ้านเก่ง อยากให้ช่วยรับตนเข้าทำงานหน่อย ขอแค่มีงานทำ ได้รับเงินวันละ 100 บาทก็ยังดี ยกมือไหว้กราบขอโทษเจ้าของคลินิก บอกไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่มีเงิน ของานทำผ่านสื่อ
ด้านนางสาวเพชรินทร์ โสภาพักตร์ เจ้าของคลินิกความงาม”อายตานิค” กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณพลังโซเชียลเป็นอย่างมากที่แจ้งเบาะแส และ ทีมข่าว ที่ไปช่วยตนตาม คนก่อเหตุ จนทราบตัว และ ได้รองเท้าเพื่อนำไปคืนลูกค้าของร้าน จริงๆแล้วรองเท้าไม่ได้มีราคาแพง และลูกค้าของทางร้านไม่ติดใจเอาความเพราะเพียงได้รองเท้าคืนเท่านั้น แต่ที่ตน ต้องมาตามรองเท้าคืนด้วยตัวเอง เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้อง และอาจเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม จนมีการก่อเหตุแบบนี้ อยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้นไม่อยากปล่อยไปเฉยๆ อยากเตือนภัยสังคม และที่สำคัญ ตนทำงาน บริการ เป็นเจ้าของกิจการ ให้ความสำคัญ ในการบริการลูกค้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่า จะเป็นของ มีราคาหรือไม่มีราคา ก็ต้องหามาคืนลูกค้าให้ได้ สำหรับเหตุการณ์นี้ อยากตักเตือนคุณป้า ไม่อยากให้ทำแบบนี้อีก ถ้าอยากได้ ขอเอาดีกว่า เหมือนที่คุณป้าขออาหาร กับพ่อค้าแม่ค้า เขาก็เห็นใจและให้ดีๆ ล่าสุดก็ได้นำรองเท้า ของคุณป้าที่ นำไปสลับไว้ที่หน้าร้านมาคืนคุณป้า แล้วนำคู่ของลูกค้าสีขาว คืนให้ลูกค้าด้วย ระหว่างที่มีการพูดคุยเจรจากันก็ได้มีพลเมืองดี ถอดรองเท้า ให้กับ บ้าบัวคำ เป็นรองเท้า ที่มีลักษณะ คล้ายกับคู่ที่ป้าบัวคำอยากจะได้ แต่เป็นสีดำ โดยยอมถอดให้ป้าบัวคำ ทันทีเพราะรู้สึก เอ็นดู สงสารที่ป้าบัวคำ แล้วยังบอกป้าบัวคำอีกว่า เป็นไปได้อย่าไปขโมยของคนอื่นเขา บางคนขอเขาดีๆเขาก็ให้ ป้าบัวคำก็รับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก และก็กราบขอบคุณพลเมืองดีที่ให้รองเท้าป้า