หนุ่มคลั่งหลอนยา ทำร้ายพ่อแม่ต้องหนีกระเจิงออกจากบ้าน แถมสาดกระสุนใส่ตำรวจก่อนเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ตำรวจปิดล้อมเจรจา 9 ชั่วโมง
วานนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.21 น. ตำรวจ สภ.วังสะพุง ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทภายในครอบครัว ที่ ต.ผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย จนพ่อแม่ต้องหนีออกมาจากบ้านแจ้งตำรวจ โดยผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนลูกซองสั้น
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง พบนายสาวิต อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุถืออาวุธปืนลูกซองยาว เมื่อเห็นเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ยิงใส่ตำรวจ 1 นัด จนเจ้าหน้าที่ต้องหลบหาที่กำบัง จากนั้นได้ขอกำลังเสริมกว่า 30 นาย ปิดล้อมบ้านพักโดยไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนี มีการปิดถนนระยะทาง 400 เมตร โดยไม่ให้รถสัญจรไปมาและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเด็ดขาด
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายประเวสน์ อายุ 56 ปี เป็นลุงของผู้ก่อเหตุ มาช่วยเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนให้น้ำดื่มและอาหาร โดยใส่ยานอนหลับจำนวน 8 เม็ด ให้ผู้ก่อเหตุผ่านไป 1 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุไม่มีท่าว่าจะหลับ และมีอาวุธปืนลูกซองสั้นติดตัวอยู่ตลอดเวลา จนมีการเจรจารอบที่สอง ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาที่ประตูหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ให้ยกมือและเดินมาช้าๆ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมเดิน
จนผ่านไป 3 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุพยายามขี่รถจักรยานยนต์เพื่อหลบหนี แต่สตาร์ทรถไม่ติด จึงได้เดินเข้าไปในบ้าน ปิดประตูลงกลอนและปิดไฟบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยังชุดสวาทของกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดเลย นำกำลังมาเสริม วางแผนเพื่อเข้าชาร์จจับกุม แต่ด้วยความมืดและมีฝนตกเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงตัวผู้ก่อเหตุ เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะถูกยิงสวนออกมา และไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนชนิดใดบ้านจึงได้วางแผนกันใหม่
ด้านนายประเวสน์ อายุ 56 ปี เป็นลุงผู้ก่อเหตุ เล่าว่า หลานชายเสพยาบ้ามานานแล้ว จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งมานาน 5-6 ปีแล้ว ส่วนสาเหตุเกิดจากอาการหลอนของการเสพยาบ้า และพกอาวุธปืนด้วย ตอนที่เข้าเจรจาก็ไม่มีอะไรกดดันหลานชายมาก ตนได้ถามหลานชายว่าหิวไหม ซึ่งหลานบอกไม่หิว เจ้าหน้าที่จึง เลยส่งน้ำและมาม่าคัพใส่นอนนอนหลับให้ ส่วนตอนเจรจาเข้าใกล้ตัวหลานชาย 5 เมตรเท่านั้น เพราะหลานมีอาวุธปืน จึงไม่กล้าเข้าไปไกลๆ
ขณะนายธนากร น้องชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า พี่ชายวันนี้เกิดอาการหงุดหงิด เกี่ยวกับการอบรมยาเสพติด ส่วนเกิดอาการคลุ้มคลั่งเกิดจากอาการหลอนยาบ้าและไปเสพยามากด้วย และเคยทำร้ายพ่อแม่ด้วย ปกติพี่ชายจะอยู่บ้านคนเดียว ส่วนตนเองทำงานนานๆ ทีจะกลับมาบ้าน
จนกระทั่งเวลา 01.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งกินเวลานานถึง 9 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุไม่มีทีท่าจะมอบตัว เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนจะบุกเข้าชาร์จ แต่ด้วยความมืดเกรงกลัวชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจะถูกลูกหลงจนได้รับอันตราย จึงได้วางแผนปิดล้อมไว้ โดยตอนเช้าจะขอศาลอนุมัติหมายจับ และเข้าชาร์จอีกครั้ง