รวบอดีตแม่บ้านแสบ เชิดเงินนายจ้างกว่า 7 แสน พร้อมลักทรัพย์ของนายจ้างอีกจำนวนมาก

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตแม่บ้านแสบ เชิดเงินนายจ้างกว่า 7 แสน พร้อมลักทรัพย์ของนายจ้างอีกจำนวนมาก

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.อาทิตย์ พุ่มทอง รอง ผกก.5 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง รอง ผกก.5 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปริญญา รักษาแก้ว สว.กก.5 บก.ปคม.,ร.ต.ท.ขวัญชัย อยู่เป็นสุข รอง สว.(ป) กก.5 บก.ปคม., ด.ต.พลภัทร สุขเจริญ, จ.ส.ต.ชัยสิทธิ์ จงรักษ์ ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปคม.

ร่วมกันจับกุม นางอนงค์ฯ อายุ 45 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 2300/2567 ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน” จับกุมบริเวณหน้าห้องเช่าในพื้นที่ ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม

พฤติการณ์ เมื่อประมาณ ปี 2564 นางอนงค์ฯ(ผู้ต้องหา) ได้มาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้กับที่บ้านของผู้เสียหาย โดยทำหน้าที่เลี้ยงลูกของผู้เสียหายจำนวน 3 คน จนสนิทสนมกับตัวเด็กเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้คนในบ้านของผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ ถึงขนาดพาไปเที่ยวต่างประเทศ และผู้เสียหายรักเหมือนคนในครอบครัว ดูแลเป็นอย่างดี ผู้เสียหายได้ให้เงินเดือน ประมาณ 30,000 บาท จนกระทั่งผู้เสียหายได้สังเกตเห็นว่านางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) มักจะกดโทรศัพท์เล่นพนันออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง แต่นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) กลับตอบว่าแค่เล่นเกมส์

ต่อมา เมื่อประมาณต้นปี 2567 นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ขอยืมเงินผู้เสียหาย โดยอ้างว่า พ่อแม่ป่วย, ไถ่ที่นาให้แม่, พี่ชายถูกจับใช้เงินประกันตัว ต่างๆนาๆ รวมแล้วกว่า 7 แสนบาทในระยะเวลาไม่กี่เดือน และเมื่อประมาณเดือน เมษายน 2567 ได้เก็บของออกจากบ้านและหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว และติดต่อไม่ได้อีกเลย ผู้เสียหายจึงได้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้าน พบว่า นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ลักเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปด้วย จึงได้แจ้งความและออกหมายจับ เพื่อมาดำเนินคดี

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ใช้ชื่อผู้เสียหายไปแอบอ้างว่าทำงานอยู่กับผู้เสียหาย ซึ่งทำธุรกิจ มีฐานะร่ำรวย จากนั้นได้หลอกลวงออกอุบายให้ผู้อื่นนำเงินมาลงทุนร่วมกับตน ได้เงินมาอีกหลายแสนบาท ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงจะรวมตัวและแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม.จึงได้ทำการสืบสวน ติดตามจับกุมตัว นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) เพื่อมาดำเนินคดี จากการสืบสวนทราบว่า นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้หลบหนีมาสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ผ่านบริษัทจัดหาแม่บ้านในจังหวัดสมุทรสาคร ทำงานได้ 2-3 วัน ก็หลบหนีไม่ไปทำงาน ซึ่งก่อนถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่า ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และมาทำงานเป็นแม่บ้านรายวัน เมื่อตรวจสอบพบว่าห้องเช่าดังกล่าว ไม่สามารถขับรถยนต์เข้าได้ ทำให้นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) สามารถหลบหนีการจับกุมได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง จ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังเฝ้าทางเข้าออก จนพบตัว นางอนงค์ฯ (ผู้ต้องหา) และทำการจับกุมตัวในที่สุด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ขอไม่ให้การในชั้นจับกุม