กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ, พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ฯ ปรก.บก.ปอท., พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์, พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท. และ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. และพ.ต.ท. ธนะ ว่องทรง รอง ผกก.2 บก.ปอท. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น นำโดย พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ปอท., ว่าที่ พ.ต.ต.วชิรเชษฐ์ อัครธีระพงศ์ สว.กก.2 บก.ปอท. และ ว่าที่ พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.(สอบวน) กก.2 บก.ปอท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท.
ร่วมกันจับกุม นายพิเชษฐ์ฯ อายุ 40 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3240/2567 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียทายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านตำบลศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายมีอาชีพในการเก็งกำไรจากการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัล (คริปโตเคอเรนซี่) โดยใช้บริการกับบริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่งของประเทศไทย ต่อมาได้ถูกคนร้ายหลอกลวง โดยอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าว และได้ชักชวนลงทุนกับอีกบริษัทหนึ่งอ้างว่าได้กำไรดีกว่า ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ย้ายไปใช้บริการกับอีกบริษัทดังกล่าว โดยคนร้ายได้ปลอมบัญชีไลน์ OFFICIAL ของบริษัทขึ้นมาทำการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปโดยอ้างว่าเพื่อขายเหรียญดิจิทัลเก็งกำไร ภายหลังผู้เสียหายไม่ได้รับเงิน จึงทราบว่าถูกหลอกลวง และมาพบพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนทราบว่า กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ผู้เสียหายได้โอนไปได้มีการยักย้ายถ่ายเทเหรียญดิจิทัลไปกระเป๋าเงินดิจิทัลอื่นๆ จากการตรวจสอบพบมีผู้รับผลประโยชน์คือนายพิเชษฐ์ฯ โดยนายพิเชษฐ์ฯ เคยทำงานที่บริษัทโบรเกอร์แลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลก่อนถูกให้ออกจากงาน และยังพบว่ามีประวัติคดีในข้อหาฉ้อโกง โดยข้อมูลหลายส่วนพอยืนยันได้ว่านายพิเชษฐ์ฯ เป็นผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจริง ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลอาญาโดยศาลได้ออกหมายจับตามหมายจับศาลอาญาที่ 3240/2567 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจจจึงได้ทำการสืบสวน จนกระทั่งทราบว่านายพิเชษฐ์ฯ ได้หลบหนีไปกบดานที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จึงได้ออกสืบสวนและเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณคอนโดดังกล่าว จนกระทั่งพบนายพิเชษฐ์ฯ เดินลงมาจากคอนโด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว และได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นของกลางในคดี จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงาน สอบสวน กก.2 บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายพิเชษฐ์ฯ ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดในคดีนี้จริง โดยก่อนหน้านี้เคยทำงานที่บริษัทโบรกเกอร์ในการแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิทัลแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายหลังบริษัทตรวจสอบพบมีพฤติกรรมในการฉ้อโกงจึงให้นายพิเชษฐ์ฯ ออกจากงาน ต่อมาผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าบริษัทโบรกเกอร์ที่นายพิเชษฐ์ฯ เคยทำงานได้โทรมาสอบถามปัญหาในการใช้บริการ นายพิเชษฐ์ฯ จึงได้สบโอกาสสวมรอยเป็นพนักงานบริษัทดังกล่าวชักชวนผู้เสียหายไปใช้บริการกับอีกบริษัทโบรกเกอร์หนึ่ง โดยได้ปลอมไลน์ OFFICIAL ขึ้นมา แล้วสนทนาหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินดิจิทัลมาที่กระเป๋าดิจิทัลของตนเองก่อนจะโยกย้ายถ่ายเทเหรียญดิจิทัลออกไปเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมนายพิเชษฐ์ฯ ได้เตรียมยาเบื่อหนูไว้เพื่อที่จะฆ่าตัวตาย เนื่องจากเครียดที่เสียพนันและต้องการหลบหนีความผิด สอบถามปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา