ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บก.ปปป. ร่วมกับ บก.ป. แจ้งข้อกล่าวหา ผอ. รร.ดังหาดใหญ่ กับพวก “ทุจริตเงินค่าอาหารกลางวัน”
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก,พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.,พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์ รอง ผบก.ปปป.,พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผกก.6 บก.ปปป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.
แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา
- นายพิพัตน์ฯ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการ/ผู้จัดการโรงเรียนฯ
- นางอุบลฯ อายุ 55 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ
- นางอัญชลีฯ อายุ 64 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียนฯ
- นางถิระนันท์ฯ อายุ 65 ปี หัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันยักยอก และ ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม” (ป.อาญา ม.352,265,83) พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทำการสืบสวน กรณี เมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 นายสุกรี แวมูซอ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา มาร้องทุกข์กล่าวโทษมอบคดีต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีกับ นายพิพัตน์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 1) ตำแหน่งผู้จัดการ/ผู้อำนวยการฯ, นางอุบลฯ (ผู้ต้องหาที่ 2) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายงบประมาณ, นางอัญชลีฯ (ผู้ต้องหาที่ 3) ตำแหน่งรองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายบริหารงานบุคคล และนางถิระนันท์ฯ (ผู้ต้องหาที่ 4) ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารงานงบประมาณ ซึ่งเป็นบุคคลากรของโรงเรียนฯ ว่าได้ร่วมกันทุจริตเงินค่าอาหารกลางวันของโรงเรียน และมีการยื่นคำร้องขอรับเงินอุดหนุนโครงการเรียนฟรี 15 ปี ในส่วนของค่าอุปกรณ์การเรียน และค่าเครื่องแบบนักเรียนจากสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา แต่ไม่นำเงินมามอบให้กับผู้ปกครอง มีการทุจริตโดยการนำใบสำคัญรับเงินต่างๆ ให้กับครูประจำชั้นเพื่อนำไปให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อ โดยยังไม่มีการกรอกข้อความใดในใบอุดหนุนการศึกษา และขอเก็บสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครองไว้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน และให้ครูปลอมเอกสารใบเสร็จรับเงินซึ่งเอกสารดังกล่าวทางโรงเรียนฯ ต้องเสนอหลักฐานการใช้จ่ายเงินอุดหนุนต่อคณะกรรมการบริหารโรงเรียน เป็นเหตุให้ผู้ปกครองเสียสิทธิในการรับเงินอุดหนุนดังกล่าว รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,226,910 บาท และส่วนของเงินอุดหนุนโครงการอาหารกลางวัน มีการว่าจ้างให้ลูกจ้างเซ็นชื่อลอยไว้ในเอกสารใบสำคัญแทนโดยไม่มีการระบุข้อความ และจำนวนเงิน จากนั้นมีการกรอกข้อความจำนวนเงินเกินไปจากที่จ่ายให้แก่ลูกจ้างจริง เป็นเหตุให้นักเรียนได้รับคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 968,286 บาท รวมความเสียหายที่เกิดขึ้น 2,195,196 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดจนนำมาสู่ การแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทุกรายยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา