ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แกะรอยตามจับสาวโรงงาน มีหมายจับไม่รู้ตัว โดนหลอกให้รับจ้างเปิดบัญชีม้า

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แกะรอยตามจับสาวโรงงาน มีหมายจับไม่รู้ตัว โดนหลอกให้รับจ้างเปิดบัญชีม้า

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.พุทธางกูร เรืองธรรม สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล., ส.ต.ท.พลาวุธ ศิริ ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล., ด.ต.กายวัฒน์ เกษมวัฒน์ ผบ.หมู่ฯ, ส.ต.ท.ธวัช หมื่นทิพย์ ผบ.หมู่ฯ, ด.ต.อมรเทพ อ่อนจ้อย ผบ.หมู่ฯ, ส.ต.ท.ทวีชัย เอี่ยมมั่น ผบ.หมู่ฯ

ร่วมกันจับกุม นางสาวลลิตาฯ อายุ 32 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลงที่ 1299/2567 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2567 ฐานความผิด “ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ปลอมทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน สถานที่จับกุม บริเวณที่ริมถนน ม.9 ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหา นางสาวลลิตาฯ ได้หลบหนีเข้ามาพักอาศัยและทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้วางแผนการสืบสวนและเดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งพบผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแจ้งพฤติการณ์การการกระทำความผิดให้ทราบและแสดงหมายจับให้ดู และผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และให้การแก่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า ตนหลงเชื่อบุคคลในเฟซบุ๊ก เป็นลักษณะเฟซอวตารทักทายตนมา เริ่มแรกชักชวนให้ร่วมกันกู้เงินเพื่อมาลงทุน ตอนแรกไม่ได้สนใจ แล้วต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวก็ชักชวนผู้ต้องหาให้เปิดบัญชีใหม่แล้วบอกว่าจะได้เงิน ผู้ต้องหาเกิดความโลภ หลงเชื่อ คิดว่าแค่เปิดบัญชีก็จะได้เงินง่าย จึงได้ไปเปิดบัญชีตามคำชักชวนของผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว แล้วก็ได้รับค่าตอบแทนมา 600 บาท โดยได้แค่ครั้งเดียว โดยเริ่มเปิดบัญชีไว้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปี66 และตนเองก็ไม่ได้ตรวจสอบบัญชีตนเองเลย และไม่ได้ติดต่อกับผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว และคิดว่าไม่มีอะไร จนกระทั่งต่อมาตนจึงทราบจากชุดสืบสวนว่าตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ปลอมทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” (เปิดบัญชีม้าและมีรายการเดินทางการเงินเกี่ยวข้องมิจฉาชีพ) และถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.พญาไท จึงรู้สึกตกใจและเสียใจที่ตนเองหลงเชื่อคนที่ไม่รู้จัก จนตนเองต้องถูกดำเนินคดี สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัยประชาชน จึงอยากฝากเคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจต่อประชาชนให้ระมัดระวังและอย่าหลงเชื่อ โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่รู้จักบนโลกออนไลน์อาจมาหลอกหรือชักจูงให้ไปเปิดบัญชีม้า หรือชักชวนร่วมลงทุนในธุรกิจที่อาจผิดกฎหมาย ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีอย่างไม่รู้ตัวในภายหลัง แบบผู้ต้องหาในเคสนี้ได้