พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.อก.บช.ทท.พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.1 และคณะ เดินทางศึกษาดูงาน ณ นครเซี่ยงไฮ้และเมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 26-31 พ.ค.67 ตามการเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อเยี่ยมชมและแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานตำรวจ และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวไทย
ในการศึกษาดูงานดังกล่าว ผบช.ทท. และคณะ ได้พบ น.ส.ปฤณัต อภิรัตน์ กงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้ นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผอ.ภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท. น.ส.นงลักษณ์ อยู่เย็นดี ผอ.สำนักงาน ททท. ณ นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ มาตรการเกี่ยวกับการเช่ารถของนักท่องเที่ยว มาตรการป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และมาตรการแก้ปัญหา Fake News เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย รวมถึงขอให้ทั้งสองหน่วยงานร่วมประชาสัมพันธ์สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ซึ่งรองรับภาษาต่างประเทศ 5 ภาษา รวมถึงภาษาจีน เพื่อให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทยด้วย
ในส่วนของการศึกษาดูงานหน่วยงานตำรวจนั้น คณะได้เข้าพบ Mr. Zhu Xinjun รองอธิบดีกรมความมั่นคงสาธารณะนครเซี่ยงไฮ้ และ Mr. Wang Jian รองอธิบดีกรมความมั่นคงสาธารณะมณฑลเจ้อเจียง เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ศึกษามาตรการดูแลความปลอดภัยแหล่งท่องเที่ยวถนนหนานจิง (Nanjing Road) นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากว่า 100,000 คนต่อวัน และสถานีตำรวจ Yuemiao ซึ่งดูแลแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ Xihu (ทะลสาบตะวันตก) ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวจำนวนประมาณ 50,000 คนต่อวัน โดยมี Mr. Sun Ke Jun หัวหน้าสถานีตำรวจฯ ให้การต้อนรับ
นอกจากนี้ คณะยังได้เดินทางดูงาน ณ บริษัท Zhejiang Dahua Technology ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศจีน และพบ Mr.John li ผู้บริหารบริษัทดังกล่าว เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่ตามโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง (S.T.C.) 33 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวขับเคลื่อนเรื่องความปลอดภัยร่วมกับภาคธุรกิจและภาคประชาชนในชุมชนท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
การเดินทางศึกษาดูงาน ณ นครเซี่ยงไฮ้และเมืองหางโจวในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ในแง่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้การปฏิบัติงานของหน่วยงานตำรวจในเมืองท่องเที่ยวชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น หากแต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ประชาสัมพันธ์การทำงานด้านการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวของไทยให้หน่วยงานในสาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับทราบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นไปถึงนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับหนึ่งที่มาเยือนประเทศไทยด้วย