สืบนครบาล รวบบัญชีม้าแก๊ง “Coin Room”หลอกลงทุนเทรดบิตคอย หลบหนีมาอยู่หลังสืบนครบาล
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมากบัญชีม้าแก๊ง “Coin Room” หลอกลงทุนเทรดบิตคอย ปลอมโปรไฟล์เป็นคนมีฐานะ สร้างความน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1.4 ล้าน
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วรุตม์ คำหล้า สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ร.ต.อ.พิชชากร กองสวัสดิ์ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ส.ต.อ.พลภัทร ปรีชา ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการเจ้าหน้าที่ กก.สส.3 สืบนครบาล จับกุมตัว น.ส.อมรรัตน์ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ จ.132/2566 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ” ฉ้อโกงผู้อื่น,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคคลใดบุคคลหนึ่ง ” จับกุม บริเวณบ้าน ซ.เก้าอี้แดง ถ.พระราม6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพ
พฤติการณ์ ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ เนื่องจากได้มีบัญชีเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า “ทาม ทาม” ทักมาชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุน เทรดเหรียญบิทคอย โดยให้ติดต่อกับบัญชีไลน์ปลอมสร้างโปรไฟล์ว่ามีฐานะและเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นที่พัทยา แพลทฟอร์มที่ใช้หลอกลงทุนเทรดบิทคอยน์ ใช้ชื่อว่า “Coin Room” ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินจำนวน 9 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 2-4 กรกฎาคม 2565 รวมเป็นเงินจำนวน 1,400,000 บาท ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2566 นายเสือ หรือไทเกอร์ ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณซอยเพชรบุรี 5 ที่พักของตน ได้ว่าจ้างให้ตนเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมแอปพลิเคชัน โมบายแบงก์กิ้ง และแสกนหน้าพร้อมใช้งาน ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย ตลอดจนศึกษารายละเอียดของการลงทุนแต่ละรูปแบบให้ชัดเจนเสียก่อน หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
.