จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ก่อเหตุอาชญากรรม สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น โดยเฉพาะผู้เสียหายที่เป็นเด็กและสตรีที่ถูกคุกคามทางเพศ นั้น
โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อดุลย์ ดอกพวง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น.ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.4 บก.สส.ฯ นำโดย พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง สว.กก.สส.4ฯเจ้าหน้าที่ กก.สส.4 สืบนครบาล ได้จับกุมตัวนายวทันยู อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.716/2566 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเพื่อการอนาจารฯ ,พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองโดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วยฯ และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ” โดยจับกุมได้ที่ หน้าตลาด ซ.5 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
พฤติกาณ์แห่งคดี เมื่อประมาณปลายเดือนกันยายน 2566 ผู้ปกครอง ของผู้เสียหายวัย 16 ปี ได้สังเกตพบว่าบุตรสาวอายุ 16 ปี มีอาการผิดปกติ จึงได้พูดคุยสอบถามจนกระทั่ง ทราบว่า บุตรสาวซึ่งได้ทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ ในร้านอาหารญี่ปุ่น ในห้างสรรพสินค้าย่านปิ่นเกล้าได้รู้จักกับผู้นายบอม หรือ นายวทันยูฯ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหัวหน้าเชฟในร้านดังกล่าว ต่อมาวันเกิดเหตุ หลังจากเลิกงานที่ร้าน นายบอมฯ ได้อาศัยความเป็นหัวหน้า บอกให้ผู้เสียหายไปทำงาน และส่งงานที่อพาร์ทเม้นของนายบอมฯ หลังจากนั้นได้ใช้กำลังปลุกปล้ำ ข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ ผู้เสียหายร้องขอให้นายบอมฯ ออกมาส่งกลับบ้าน แต่นายบอมฯได้ขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าที่ทำงาน ก่อนที่ผู้เสียหายจะโทรศัพท์หาเพื่อนสาวมารับกลับบ้าน ผู้ปกครองจึงได้พาผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทึกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าได้กระทำชำเราผู้เสียหายจริง แต่เกิดจากความยินยอมของผู้เสียหายเอง จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเน้นย้ำกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องสอนเด็กอย่างตรงไปตรงมาให้ระมัดระวังตัว ให้เด็กรู้ว่าถ้าจะมีคนมาจับตัว ต้องพยายามออกห่าง พยายามไม่อยู่กับผู้ใหญ่ต่างเพศตามลำพัง อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เฉพาะคนแปลกหน้าเท่านั้นที่เด็กต้องระวังตัว แต่ต้องให้เด็กระมัดระวังคนใกล้ตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนบ้าน ญาติ หรือแม้แต่พ่อแท้ๆ บางทีก็เชื่อใจไม่ได้ ทั้งควรสอนให้เด็กรู้ว่าพฤติกรรมลักษณะไหนที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งก็ได้แก่ การสัมผัสที่มากเกินปกติ ถูกเนื้อต้องตัว หอมแก้ม กอดจูบลูบคลำ หรือขอดูเด็กเปลือยกาย หากเจอเรื่องทำนองนี้ต้องให้เด็กพูดปฏิเสธให้เป็น และสอนวิธีอยู่ให้ห่างมากที่สุด