กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป. ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง.ผกก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดกับจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม
1. นายชัยพรฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทยผู้ถูกจับที่ 1
2. นายยุทธนาฯอายุ 37 ปี สัญชาติไทยผู้ถูกจับที่ 2
3. นายยุทธศักดิ์ฯอายุ 27 ปี สัญชาติไทย ผู้ถูกจับที่ 3
4. นายอดิศักดิ์ฯ อายุ 29 ปี สัญชาติไทย ผู้ถูกจับที่ 4
5. นางสาวซูเมี๊ยหมู่ อายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 5
6. นายไค่เมียวอูอายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 6
7. นายเมี๊ยมินอ่องอายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 7
8. นางสาวตะซิงข่ายอายุ 20 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 8
9. นายละหน่ายนิอายุ 19 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 9
10. นายพิวอุ๋ยอายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 10
11. นายโค๋วพิวอายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 11
12. นายเตงอูไหล่อายุ 29 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 12
13. นายเฮงซ่อทุยอายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 13
14. นายเยนจ่อทูอายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 14
15. นายยาสะเวิ้งโทะอายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 15
16. นายเยบูอายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 16
17. นายนายย้ายอายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ถูกจับที่ 17
18. นายวาวิชาก้าอายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 18
19. นายเซามงเหว่อายุ 29 ปีสัญชาติ เมียนมาผู้ถูกจับที่ 19
20. นายคงโมเชียงอายุ 22 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 20
21. นายล่าแมงทุยอายุ 30 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 21
22. นายซอมิวทุยอายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมา ผู้ถูกจับที่ 22
โดยกล่าวหาว่า ผู้ถูกจับที่ 1,2,3 และ 4 “ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ผู้ถูกจับที่ 5 – 22 “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จับกุม บริเวณถนนพหลโยธิน (ทล.1) กม.326 ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จว.นครสวรรค์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่รับผิดชอบ พบ รถยนต์กระบะสีดำ,รถยนต์กระบะสีเทา และ รถยนต์กระบะสีขาว ขับขี่ตามกันมามีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจสอบรถยนต์กระบะสีเทา พบนายยุทธศักดิ์ฯ (ผู้ถูกจับที่ 3) และบุคคลต่างด้าว จำนวน 9 คน (ผู้ถูกจับที่ 14-22) นั่งโดยสารมากับรถยนต์ดังกล่าว และได้ตรวจสอบรถยนต์กระบะสีขาว ซึ่งขับตามกันมา พบ นายอดิศักดิ์ฯ ผู้ถูกจับที่ 4 และบุคคลต่างด้าว จำนวน 9 คน (ผู้ถูกจับที่ 14-22) นั่งโดยสารมากับรถยนต์ดังกล่าว โดยรถยนต์กระบะสีดำเป็นรถที่ขับขี่นำทางสำรวจเส้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเรียกตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว พบนายชัยพรฯ ผู้ถูกจับที่ 1 (ผู้ขับขี่) และพบนายยุทธนาฯ ผู้ถูกจับที่ 2 นั่งโดยสารมากับรถยนต์ดังกล่าว
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญรถยนต์ทั้ง 3 คัน มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรโกรกพระ ภ.จว.นครสวรรค์ พบว่า ผู้ถูกจับที่ 5-22 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 และ 2 ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันขับขี่รถยนต์นำทางรถยนต์ของผู้ถูกจับที่ 3 และ 4 จากจังหวัดตาก มาจนถึงจังหวัดนครสวรรค์ โดยกระทำแบบนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง และได้ค่าจ้างจำนวน 5,000 บาท/ครั้ง และทราบดีอยู่แล้วว่ารถยนต์ของผู้ถูกจับที่ 3 และ 4 ขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและยินยอมที่จะนำพาไปส่งที่จุดหมายปลายทางจริง จากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 3 และ 4 ให้การว่า ตนได้ขับขี่รถยนต์บรรทุกแรงงานต่างด้าวมาจากจังหวัดตาก จนมาถึงจังหวัดนครสวรรค์ โดยกระทำแบบนี้มาแล้ว 2 – 3 ครั้ง และได้ค่าจ้างจำนวน 1,000 บาท/คน และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าว ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใด ๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง โดยมี นายชัยพรฯ ผู้ถูกจับที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ ขับรถนำตลอดเส้นทางจริง จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ และได้สอบถามผู้ถูกจับที่5-22 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000-20,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรโกรกพระ ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา