รวบหนุ่มลูกจ้างเทศบาล หนีหมายจับคดียาบ้า นานกว่า 14 ปี ก่อนหมดอายุความไม่กี่เดือน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) นำโดย ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว, ร.ต.ต.ภานุพงษ์ ทองนพ, ร.ต.ต.ชัยนาท สังหา รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล., ด.ต.พงศกร ศรีวรพจน์ และ ส.ต.อ.สิงหนาท พลับเกลี้ยง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม นายโยธินฯ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ครอบครองยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีพฤติการณ์หลบหนี” ลงวันที่ 15 ก.ย.53 สถานที่จับกุม ที่ทำการเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 เมษายน 67
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี พ.ศ.2553 ซึ่งขณะนั้นนายโยธินฯ อายุ 16 ปี นายโยธินฯ ได้มีพฤติกรรมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว จับกุมตัวพร้อมยาบ้าที่อยู่ในความครอบครองของนายโยธินฯ จึงทำให้ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ครอบครองยาเสพติดฯ” และถูกส่งตัวไปดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดนครปฐมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว โดยศาลมีคำสั่งให้คุมความประพฤติของนายโยธินฯ แต่ปรากฏว่าภายหลังนายโยธินฯ ไม่ยอมมารายงานตัวต่อศาลตามที่กำหนด และมีพฤติการณ์หลบหนี จนเป็นเหตุให้ศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับนายโยธินฯ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553
ต่อมาเมื่อประมาณเดือนเมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (นครปฐม) สืบสวนทราบว่านายโยธินฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ได้หลบหนีมาประกอบอาชีพเป็นพนักงานในเทศบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ลงพื้นที่ติดตาม จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พบตัวนายโยธินฯ ระหว่างกำลังเดินทางมาทำงานที่เทศบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและแสดงหมายจับ ก่อนทำการจับกุมนำตัวส่งศาลจังหวัดนครปฐมดำเนินการต่อไป
จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หลังจากที่ตนถูกนำตัวส่งดำเนินคดีที่ศาลนครปฐมแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวแล้ว ตนได้หลบหนี และไม่ยอมไปรายงานตัว จนกระทั่งถูกศาลออกหมายจับ ซึ่งตลอดระยะเวลา 14 ปีที่หลบหนี ตนได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานเป็นระยะจนล่าสุดมาได้งานเป็นลูกจ้างของเทศบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครปฐม และถูกจับกุมก่อนที่คดีจะหมดอายุความในอีกไม่กี่เดือน