รวบสาวต่างชาติแก๊งคอลฯ มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเกือบร้อยล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบผู้ต้องหาสาวต่างชาติ ตามหมายจับรายสุดท้ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีเงินหมุนเวียนในบัญชี เกือบร้อยล้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร, พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.2 บก.ป., ภูวดล เปรมปรีวรรณ รอง สว. กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ ชป.5 กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุม Mrs.Myint สัญชาติ MYANMAR ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 60/2567 ลงวันที่ 2 กุมพาพันธ์ 2567 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้ หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่น” สถานที่จับกุม คอนโดแห่งหนึ่ง แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ ชป.5 กก.2 บก.ป. ดำเนินการสืบสวนขยายผลคดีฉ้อโกงในสื่อสังคมออนไลน์ สภ.เมืองปทุมธานี ตามประจำวันเกี่ยวกับคดี สภ.เมืองปทุมธานี ลำดับที่ 11 วันที่ 8 พ.ย.66 โดยมีผู้เสียหายคือ น.ส.นงค์ชาญฯ ผู้เสียหายให้การว่า ช่วงวันที่ 16 ก.พ.66 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ได้เพิ่มเพื่อนทางเฟชบุ๊กกับ น.ส.นงค์ชาญฯ โดยทั้งสองคุยกันทางแชทเพชบุ๊ก จากนั้นผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ขอไอดีไลน์จาก น.ส.นงค์ชาญฯ จากนั้น น.ส.นงค์ชาญฯ ได้ให้ไอดีไลน์ของน้องสาวตนเองที่ชื่อ น.ส.จันทนาฯ และจากนั้นได้มีผู้ใช้บัญชีไลน์เพิ่มเพื่อนเข้ามา จากนั้นได้คุยโปรเจ็คเกี่ยวกับงานขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล และละผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว ได้แจ้งกับ น.ส.นงค์ชาญฯ ว่าตนเองกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศแต่ว่าไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เนื่องจากบัญชีถูกล็อค ต้องใช้เงินในการปลดล็อคบัญชีและค่าขนส่งสิ่งของ ทั้งหมด 2,210,000 บาท น.ส.นงค์ซาญฯ หลงเชื่อเนื่องจากเกิดความสงสาร น.ส.นงค์ซาญฯ จึงได้ตกลงกับผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว ว่าให้เพื่อนของผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าวช่วยจ่ายคนละครึ่งกับ น.ส.นงค์ชาญฯ ผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว จึงได้ส่งบัญชีธนาคารปลายทางมาให้ จากนั้น น.ส.นงค์ซาญฯ ได้โอนเงินทั้งหมด 16 ครั้ง ได้บัญชีธนาคารมาทั้งหมด 13 บัญชี มีมูลค่า ความเสียหาย 2,210,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ออกหมายจับเจ้าของบัญชี ทั้ง 13 ราย โดยถูกจับกุมไปแล้ว 12 ราย เหลือผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายของกลุ่มขบวนการนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่สถานที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งแขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พร้อมหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 65/2567 เพื่อทำการตรวจค้นห้องห้องหนึ่ง ชั้น ๗ ตึกบี คอนโดดังกล่าว เพื่อพบตัว Mrs.Myint และเพื่อตรวจยึดสิ่งของ อุปกรณ์สื่อสาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สมุดบัญชีธนาคาร เมื่อเดินทางไปถึงได้เรียกบุคคลภายในห้องดังกล่าว พบหญิงชาวต่างชาติอยู่ภายในห้อง ได้เปิดประตูออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ร่วมกันแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว จึงแสดงหมายค้นให้หญิงดังกล่าวทราบ และสอบถามหญิงดังกล่าวรับว่าตนคือ Mrs.Myint สัญชาติ MYANMAR จริง จึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ของ Mrs.Myint พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ 60/2567 ลงวันที่ 2 กุมพาพันธ์ 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้ หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่น” คดีอาญาที่ 76/2567 จึงได้แสดงหมายจับและอ่านให้ฟัง ทั้งนี้ Mrs.Myint Zu KoKo รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ดังกล่าวจริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ์ข้างต้นให้ทราบ พร้อมแจ้งให้ทราบว่าต้องถูกจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว Mrs.Myint มาที่ กก.2 บก.ป. เพื่อจัดทำบันทึกการจับกุมตัว เมื่อเสร็จแล้วนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนเพิ่มเติม จนสืบทราบว่า Mrs.Myint สัญชาติ MYANMAR ผู้ต้องหารายนี้ ใช้บัญชีของตนไปเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ อีก 6 คดี มีการหมุนเวียนเงินในบัญชี กว่าร้อยล้านบาท