ปส. สกัดจับ “ทีมนักบินตายแทน” ยึดยาบ้า-ไอซ์-คีตามีน เพียบ

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สกัดจับ “ทีมนักบินตายแทน” ยึดยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด, ไอซ์ 500 กก., และ คีตามีน 200 กก. คาดเตรียมกระจายของช่วงสงกรานต์

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ

วันนี้ 5 เม.ย.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในห้วง 11 – 28 มี.ค. 67 จำนวน 11 เครือข่าย ผู้ต้องหารวม 29 คน ตรวจยึดยาบ้ากว่า 19 ล้านเม็ด, ไอซ์ 500 กก., และ คีตามีน 200 กก. พร้อมของกลางรถที่ใช้ก่อเหตุ 23 คัน

คดีแรก ตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 สืบสวนขยายผลจนทราบว่า “เครือข่ายสองพี่น้อง ลาดกระบัง” จะเดินทาง ขึ้นไปรับของทางภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้รถกระบะลำเลียง กระทั่งวันที่ 28 มี.ค.67 พบความเคลื่อนไหว รถเป้าหมาย 2 คัน ขับตามกันมา ผ่าน จว.เชียงราย-เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร -นครสวรรค์ จนมาถึงด่านตรวจพยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ตำรวจได้เรียกรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคลแบบตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 1ฒณ 73xx กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบ แต่คนขับได้ขับหลบหนี ตำรวจจึงโยน Stop Stick เพื่อเจาะทำลายยางรถยนต์ และสกัดกั้นการหลบหนีของยานพาหนะ ทำให้ยางหน้ารถทั้งสองข้างและยางหลังขวาแตก แต่ยังขับหลบหนีไปได้กว่า 1 กิโลเมตร ก่อนจะควบคุมรถได้บริเวณริมถนนพหลโยธินขาออก ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ส่วนคนขับขี่ได้วิ่งไปขึ้นรถกระบะของเครือข่ายที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้าม มุ่งหน้าไปทางจังหวัดชัยนาท เบื้องต้นพบยาบ้า 5 กระสอบ อยู่บริเวณท้ายกระบะรวมทั้งสิ้น 1,000,000 เม็ด ระหว่างนั้นตำรวจได้จัดกำลังกันติดตามจับกุมตัวนายวิษณุ หรือณุ พร้อมรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน บษ 85xx ฉะเชิงเทรา อีกคัน ซึ่งเป็นรถนำทาง ได้บริเวณริมถนนสายเอเชีย ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จว.ชัยนาท แต่ไม่พบตัวคนขับรถตู้ทึบ และไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งนายวิษณุ รับสารภาพว่าเป็นคนขับรถนำสำรวจเส้นทางจริง จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจสอบยังที่พักห้องเลขที่ 4/5 ชั้นที่ 4 อ่อนนุชเพลส แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบนายมานะชัย คนขับรถกระบะตู้ทึบสารภาพว่าเป็นคนขับรถบรรทุกยาเสพติดจริง โดยรับมาจาก อ.แม่สรวย จว.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่ อ.ทุ่งสง จว.นครศรีธรรมราช

คดีที่ 2 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 สืบสวนพบว่ามีเครือข่าย อัญชนา มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนใน ต่อมา เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 15.00 น. พบเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.นครพนม โดยใช้รถยนต์ หมายเลขทะเบียน ขย 3213 ขอนแก่น ลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ กระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. รถเป้าหมายได้ขับมาจอดบริเวณสี่แยกไฟแดงหน้า ธ.กรุงเทพ สาขาสว่างแดนดิน ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จว.สกลนคร ชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบ นายพายุ เป็นผู้ขับขี่ และ นางสาวอัญชนา โดยสารข้างคนขับ จากการตรวจค้นรถพบยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด อยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์

คดีที่ 3 ตำรวจ บก.ปส.2 จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายลำเลียงยาเสพติด อ.ศรีสงคราม จว.นครพนม พร้อมยาเสพติดจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง 3 คดี จึงได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่านายสุรพงษ์ หรือโต้ พร้อมพวก 2 คน จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณชายแดนริมแม่น้ำโขง ด้าน จว.นครพนม เข้ามาพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กระทั่งวันที่ 21 มี.ค.67 พบรถเป้าหมายจอดอยู่ที่บริเวณสถานีบริการน้ำมัน ปตท.สาขาศรีนคร อ.ธาตุพนม จว.นครพนม และขับออกมาติดตามกันเป็นรูปขบวน มุ่งหน้าไป จว.กาฬสินธุ์ – จว.มหาสารคาม – จว.บุรีรัมย์ – จว.นครราชสีมา กระทั่ง รถยนต์ หมายเลขทะเบียน กต-93xx ระยอง ได้ขับขี่มาถึงบริเวณถนนเจนจบทิศ ต.เทพาลัย อ.คง จว.นครราชสีมา ชุดจับกุมจึงแสดงตัว เพื่อขอตรวจค้น พบนายวีระพงศ์ หรือแม็ก เป็นผู้ขับขี่ และพบนายสุรพงษ์ หรือโต้ นั่งด้านหน้าคู่คนขับและ ยาบ้า 7 กระสอบ จำนวน 3,000,000 เม็ด บรรทุกอยู่ในห้องโดยสารและบริเวณกระโปรงด้านหลังของรถยนต์ ขณะที่เจ้าหน้าที่อีกชุดสามารถสกัดจับรถนำ หมายเลขทะเบียน 4ขฉ-57xx กรุงเทพมหานคร ได้บริเวณลานจอดรถยนต์หน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขาดอนหวาย ต.โตนด อ.โนนสูง จว.นครราชสีมา พบนายสมโภชน์ หรืออู๊ด เป็นผู้ขับขี่ สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพ ร่วมกันขนยาบ้าทั้งหมดมาจากจังหวัดนครพนม เพื่อจะนำไปส่งให้ลูกค้าที่บริเวณ จว.สระบุรี จริง โดยแบ่งหน้าที่กันทำ

คดีที่ 4 ตำรวจ บก.ปส.2 ได้ทำการขยายผลจากการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 12 ล้านเม็ด เมื่อวันที่ 24 ม.ค.67 จนทราบตัวบุคคลและรถยนต์ของเครือข่ายที่ใช้ในการลำเลียงที่ต้องเฝ้าระวัง ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 พบรถต้องสงสัยใช้เส้นทางจาก จว.บึงกาฬ – จว.สุพรรณบุรี จนวันที่ 25 มี.ค.67 พบรถเป้าหมายมีเคลื่อนไหวอีกครั้ง จึงจัดกำลังเฝ้าติดตาม พบรถเป้าหมายออกจาก อ.บุ่งคล้า จว.บึงกาฬ มุ่งหน้ามาทางถนนมิตรภาพ ถึงบริเวณสี่แยกท่าพระ อ.เมือง จว.ขอนแก่น กระทั่งตำรวจชุดจับกุมสามารถเข้าสกัดจับกุม นายศรีพรม ผู้ขับขี่รถยนต์ Toyota Fortuner สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กน 3796 กรุงเทพมหานคร ได้บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟจราจร บ้านเกิ้ง ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าถูกบรรจุอยู่ในถุงดำ ขนาดใหญ่ รวมจำนวน 4,000,000 เม็ด

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 18 มี.ค.67 เวลาประมาณ 18.00 น. ตำรวจ กก.๒ บก.ปส.๓ สืบสวนพบว่าจะมีเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนายปรัชญา กับพวก ใช้รถยนต์นำยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ นำไปส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่าย ในพื้นที่ภาคกลาง กระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. พบรถยนต์เป้าหมายขับเข้าไปพื้นที่ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จว.เชียงใหม่ และจอดที่หอพักแห่งหนึ่งใน ต.ป่าแดด ต่อมาเวลา10.00 น. ของวันที่ 19 มี.ค.67 เครือข่ายได้ขับรถยนต์ไปรับ หญิงสาว ที่สนามบินเชียงใหม่ ก่อนจะไปเช่ารถยนต์ 1 คัน และขับตามกันเพื่อเข้าพักที่รีสอร์ตใน ต.ป่าแดด ต่อมาช่วงเช้ามืดของวันที่ 22 มี.ค.67 พบว่ารถที่เช่ามาถูกขับออกจากรีสอร์ต และมีรถอีกคันขับตามไป มุ่งหน้า จว.ลำพูน จากนั้นรถเช่าได้เลี้ยวกลับรถ บริเวณหน้าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี ต.เชียงทอง อ.เมืองตาก จว.ตาก มุ่งหน้ากลับ จว.เชียงใหม่ ชุดจับกุมจึงประสานด่านตรวจแม่พริก (ขาขึ้น) ให้ทำการสกัดจับกุมพบนายสุทธิวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถเช่า ขณะเดียวกันรถเป้าหมายพบว่าจอดบริเวณร้านค้าริมถนนพหลโยธิน ต.เพชรชมกู อ.โกสัมพีนคร จว.กำแพงเพชร ก่อนที่คนขับจะลงจากรถ ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัวแต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะข้างทาง ตำรวจจึงระดมกำลังติดตามจนจับกุม นายปรัชญาฯ ได้ที่บริเวณริมแม่น้ำปิง ห่างจากริมถนนพหลโยธิน ประมาณ ๓ กม. ขณะเดียวกันชุดจับกุมอีกชุดได้ควบคุมตัว น.ส.อินธิชาฯ ซึ่งโดยสารมากับ นายปรัชญาฯ พร้อมตรวจค้นรถพบยาบ้ารวม 334,000 เม็ด ถูกซุกซ่อนบริเวณช่องยางอะไหล่ และใต้เบาะหลังผู้โดยสาร ที่ถูกดัดแปลง เป็นช่องลับ สอบสวน นายปรัชญา สารภาพว่ามีการซุกซ่อนยาเสพติดบริเวณช่องใส่ยางอะไหล่และใต้เบาะหลังผู้โดยสาร

คดีที่ 6 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนายหวือ และนายเปา ชาวเขากลุ่มชาติพันธุ์ม้ง มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ อ.ภูซาง จว.พะเยา ไปส่งให้กลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ตอนในของประเทศ ต่อมาสืบทราบว่าช่วงปลายเดือน มี.ค.67 พบว่าเครือข่ายนี้ จะลำเลียงยาเสพติดไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ จว.สุพรรณบุรี และพบว่าลูกค้าของเครือข่าย คือนายนัธธี และนางสาวโชติกา จึงได้ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตาม กระทั่งพบว่า ในวันที่ 26 มี.ค.67 นางสาวโชติกา ได้ขับรถปิคอัพนำเส้นทาง นายนัธธี ซึ่งขับรถเอนกประสงค์สีดำ ลักษณะบรรทุกส่งของมีน้ำหนัก ก่อนจะเข้าที่พักบริเวณ หมู่บ้านลาดตะโก ต.ดอนมะสังข์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จว.สุพรรณบุรี ชุดจับกุมจึงเข้าสกัดจับรถยนต์ทั้งสองคันพร้อมตรวจค้น พบยาบ้า 7,000,000 เม็ด ระหว่างที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา ได้มีนายอัครพล หรือนิว ทราบชื่อภายหลังได้โทรศัพท์เข้ามา แจ้งให้นำยาบ้าไปส่งมอบให้กับกลุ่มเครือข่าย โดยนัดหมายบริเวณลานจอดรถยนต์ถนนทางเข้าสนามกอล์ฟไพน์เอิรส์ท กอล์ฟคลับ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี ในวันที่ 27 มี.ค.67 เวลาประมาณ 02.00 น. ตำรวจจึงมขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายเพิ่มเติม ได้แก่ นายณัฐรณ, นายอมรเชษฐ์, นายธีรวัฒน์ และ นายพีรพัฒน์ ขณะมารับยาเสพติดจำนวนดังกล่าว

คดีที่ 7 เมื่อวันที่ 11มี.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.4 จากการสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ทราบว่าจะมีการลำเลียง ยาเสพติดจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งพื้นที่ภาคใต้ ชุดจับกุมจึงออกตรวจสอบตามเส้นทางก่อนถึงด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กระทั่งมาถึงบริเวณริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ เยื้องร้านเจ๊แก้ว อาหารอีสาน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร พบรถบรรทุกพ่วงตัวแม่ และมีลูกพ่วง ที่กำลังเฝ้าระวัง หมายเลขทะเบียน 83-0xxx นครศรีธรรมราช จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ พบนายอนุวัฒน์ เป็นผู้ขับขี่ แสดงอาการมีพิรุธ ตำรวจจึงนำรถยนต์บรรทุกเข้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพร เพื่อทำการเอกซเรย์พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะเป็นแท่ง ๆ อยู่ภายในหัวเก๋งและวางอยู่ด้านบนหัวเก๋ง จึงตรวจค้นโดยละเอียด พบเป็นยาบ้า 200,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังเบาะฝั่งผู้โดยสาร และยาบ้า 400,000 เม็ด รวม 600,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่หลังคาหัวเก๋ง สอบปากคำนายอนุวัฒน์ สารภาพว่า ถูกว่าจ้างให้ลำเลียงยาบ้าจาก อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานี เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.ทุ่งสง จว.นครศรีธรรมราช

คดีที่ 8 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 ตำรวจ บก.ปส.4 บูรณาการร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังร่วมกันตั้งด่านตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร มีรถยนต์บรรทุก ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 71 3xxx เพชรบุรี ซึ่งเป็นรถที่เฝ้าระวังขับผ่านมา ตำรวจจึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจสอบมี นายวันชัย เป็นผู้ขับขี่ จึงขอให้นำรถเข้าไปภายในบริเวณที่ทำการด่านตรวจฯ เพื่อทำการเอกซเรย์ พบสิ่งของที่มีลักษณะเป็นก้อน จึงตรวจค้นโดยละเอียด พบยาบ้ารวม 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังกระบะท้ายรถยนต์บรรทุกคัน สอบถาม นายวันชัย สารภาพว่าถูกจ้างให้ขนยาบ้าจากพื้นที่