ขยายผลจับกุม 4 รุ่นพี่ ลวงเด็กหญิงรุ่นน้องไลฟ์สดคลิปอนาจาร

ขยายผลจับกุม 4 รุ่นพี่ลวงเด็กหญิงรุ่นน้อง ไลฟ์สดคลิปอนาจาร พบเด็กหญิงอายุตั้งแต่ 14-16 ปี ถูกล่อลวง รวม 6 คน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช  ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พ.ต.อ.กรีธา ตันคณารัตน์, พ.ต.อ.สุรพงศ์ ชาติสุทธิ์, พ.ต.อ.วุฒิชัย จันโทภาส, พ.ต.อ.ณรงค์ เทศวิบูลย์, พ.ต.อ.มารุต กาญจนขันธกุล, พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม., พ.ต.ท.เกียรติก้อง ทองคำ, พ.ต.ท.พระเนียง พรมมี รอง ผกก.2 บก.ปคม.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิระยะพงศ์ สว.กก.2บก.ปคม., ร.ต.อ.ต้นกล้า ถมกระจ่าง รอง สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม.

จับกุมผู้ต้องหา

1. นายศุภากรฯ อายุ 18 ปี

2. น.ส.ณิชาฯ อายุ 18 ปี

3. น.ส.บงกชกรฯ อายุ 18 ปี

4. นายปุณยวัจน์ฯ อายุ 19 ปี

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 

1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกเด็ก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ตกลงกันไว้

2. ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขังจัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกเด็ก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี

3. ร่วมกันเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก

4. ร่วมกันประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าสื่อลามกอนาจารเด็ก

5. ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน เพื่อการใด

​พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมกลุ่มรุ่นพี่ 3 คน ร่วมกันล่อลวงเด็กผู้หญิงรุ่นน้องให้มาถ่ายทอดสดวีดีโอโป๊เปลือยผ่านแอปพลิเคชัน Discord โดยจะมีเด็กผู้หญิงหลายคน สลับกันมาทำท่าทางอนาจารต่างๆ เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศหรือบางครั้งก็เป็นการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ของเด็กหญิงกับผู้อื่นและเรียกเก็บเงินจากผู้เข้าชม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเด็กหญิงดังกล่าวทราบว่าได้รับการชักชวนจากรุ่นพี่ในกลุ่ม Discord ให้มาทำงานหารายได้พิเศษ โดยให้เปิดกล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายทอดสดตัวเองถอดเสื้อผ้าโป๊เปลือย ทำท่าทางปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง แลกกับเงินส่วนแบ่งที่ได้รับจากการเก็บเงินค่าเข้าชมการถ่ายทอดสดในแต่ละครั้งประมาณ 1,000 – 2,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นตรวจค้นบ้านพักอาศัยของผู้ร่วมกระทำผิดและจับกุมผู้ร่วมกระทำผิด จำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นายศุภากรฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่ม Discord และเป็นหัวหน้ากลุ่มในการจัดการระบบการถ่ายทอดสด 2.น.ส.ณิชาฯ ทำหน้าที่เป็นคนดูแลจัดคิวการถ่ายทอดสดของเด็กหญิงในแต่ละวันและแบ่งเงินรายได้ 3.น.ส.บงกชกรฯ ทำหน้าที่เป็นดีเจพูดชักชวนให้สมาชิกโอนเงินเพื่อให้เด็กหญิงที่มาถ่ายทอดสดนั้นกระทำท่าทางอนาจารต่างๆตามที่สั่ง

​ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลเด็กผู้หญิงที่อยู่ภายในวิดีโอลามกอนาจารสามารถพิสูจน์ตัวบุคคล ได้เพิ่มอีกรวม 6 คน จากการสอบปากคำเด็กผู้หญิงทั้ง 6 คน ให้การตรงกันว่าถูกกลุ่มผู้กระทำผิดชักชวน ในลักษณะเดียวกัน และได้สืบสวนพบว่า มีผู้กระทำผิดในขบวนการเพิ่มอีก คือ นายปุณยวัจน์ฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องการแบ่งเงินรายได้จากการถ่ายทอดสด และดีเจอีกคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เงินที่ได้จากการถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง จะแบ่งให้เด็กหญิงที่มาถ่ายทอดสดประมาณ 60% และส่วนที่เหลือจะนำมาแบ่งกันตามสัดส่วน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย ฝากถึงผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานของท่านในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เนื่องจากปัจจุบันมีเยาวชนใช้งานสื่อจำนวนมาก อาจถูกผู้ไม่หวังดีล่อลวงไปกระทำในสิ่งไม่ดี และฝากความห่วงใยน้อง ๆ เยาวชนที่เข้าไปถ่ายคลิปหรือภาพที่ไม่เหมาะสมบนโซเชียลมีเดีย อาจมีผู้ไม่หวังดีบันทึกภาพหรือคลิปไปเผยแพร่ต่อ ทำให้เกิดความอับอาย ถูกดูหมิ่นจากสังคม ขาดโอกาสทางการเรียนหรือการงานในอนาคต หรือส่งผลต่อสุขภาพจิตได้