ตร.ไซเบอร์ ดักรวบ 2 ผู้ร่วมขบวนการไฮบริดสแกมแก๊งใหญ่ หลอกสาวไทยลูกครึ่งมะกัน สูญเงินกว่า 200 ล้านบาท

ตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะคดีหลอกให้รักแล้วลงทุน หรือไฮบริดสแกม ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งรัดปราบปรามจับกุมขบวนการดังกล่าว เพื่อลดความเดือดร้อนให้กับประชาขนจากการสูญเสียทรัพย์สิน และตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความ กรณีมีผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชาวต่างชาติ อ้างว่าเป็นทหาร ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ประเทศเยเมน ทักมาขอคุยเป็นเพื่อน แล้วจึงพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นจึงชวนพูดคุยกันเรื่องการลงทุนในคริปโตฯ หรือการเทรดเหรียญดิจิทัล ผู้เสียหายมีความสนใจ จึงร่วมลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Trust Wallet ตามคำแนะนำของคนร้าย ช่วงแรกก็ได้ผลตอบแทนตามปกติ แต่เมื่อลงทุนมากขึ้น คนร้ายจะมีข้ออ้างมาให้โอนเงินเป็นค่าดำเนินการต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่าสองร้อยล้านบาท

ต่อมา พ.ต.อ.คมสันต์ กันหา ผกก.4 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากสายลับว่า 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับ กำลังเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยทางจุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.คมสันต์ฯ จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.จรัญ จาดเปรม สว.กก.3 ปรก.สว.กก.4 บก.สอท.1 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกันวางแผนจับกุมตัว

และในวันที่ 30 มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายไทยศิลป์ อายุ 22 ปี และ น.ส.นิรชา อายุ 28 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าข้อมุลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จอันมิได้กระทำผิดต่อประชาชนแต่เป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่าทำงานให้กับขบวนการไฮบริดสแกม หลอกให้รักแล้วลงทุน ที่ประเทศเพื่อนบ้าน สร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นชาวต่างชาติหน้าตาดี ตามแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ มาหลอกคนไทยด้วยกันเอง โดยการสุ่มทักแชทเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม หรือในแอปพลิเคชันหาคู่ สร้างความสนิทสนม พัฒนาความสัมพันธ์ แล้วชักชวนให้ลงทุนทางดิจิทัล เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขยายผลเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนี้ต่อไป