ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับลูกจ้างแสบงัดตู้เซฟโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.หญิงวรรณภา พรมบัญชา รอง สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.ท.ดวง ขาวสะอาด รอง สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ป., และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.4 กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายพิเชษฐ์ฯ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 862/2566 ลง 15 กันยายน 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์นายจ้างในเวลากลางคืน” สถานที่จับกุม บริเวณถนนหน้าบ้านหลังหนึ่ง ม.12 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2567 ทางกองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย ให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ อดีตพนักงานบริษัทที่ได้ก่อเหตุลักทรัพย์เงินในตู้เซฟ แล้วหลบหนีไป ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว โดยมีพฤติการณ์ กล่าวคือ เมื่อประมาณเดือน มิถุนายน 2566 บริษัทผู้เสียหาย ประกอบกิจการเกี่ยวกับโรงแรมย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ ได้รับ นายพิเชษฐ์ฯ เข้าเป็นพนักงานฝ่ายตันรับ (หัวหน้าชุดรอบกลางคืน) เข้าทำงานเรื่อยมาตามปกติ ต่อมาวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 18.00 น. นายพิเชษฐ์ฯ ได้โทรมาแจ้งทางบริษัทฯ ว่าจะเข้างานสาย จนกระทั่งถึงเวลาทำงานเวลา 21.00 น. ผู้ต้องหา ยังไม่มาทำงานและไม่สามารถติดต่อได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 09.00 น. พนักงานบัญชีแจ้งว่าซองเงินค่ามัดจำห้องของลูกค้าหายไป 1 ห้อง จำนวน 25,000 บาท จึงแจ้งให้ผู้จัดการทราบ เพื่อตรวจสอบและสอบถามผู้เกี่ยวข้องยืนยันว่าได้เอาเงินเข้าในตู้เซฟเรียบร้อย จึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังไป กระทั่งพบว่านายพิเชษฐ์ฯ ได้ทำการหยิบเงินออกจากตู้เซฟ แล้วหลบหนีไปจริง จนได้พยายามติดต่อนายพิเชษฐ์ฯ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ทางโรงแรมได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ นายพิเชษฐ์ฯ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัว นายพิเชษฐ์ฯ กระทั่งทราบว่าหลังก่อเหตุได้หลบหนี หลบหนีกบดานอยู่ที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พ.ต.ท.รัฐมนตรี พันชูกลาง สว.กก.3 บก.ป. จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนจับกุมลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่นายพิเชษฐ์ฯ กำลังขายก๋วยเตี๋ยว ที่บริเวณหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ม.12 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง
จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม นายพิเชษฐ์ฯ จากนั้นนำตัวส่งดำเนินคดี กับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการสอบถามเบื้องต้นนายพิเชษฐ์ฯ ให้การรับสารภาพ ว่าตนเองได้กระทำความผิดจริง และได้นำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิตของตนเอง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงอยากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ที่เป็นเจ้าของบริษัท, ธุรกิจ หรือกิจการ ที่จะต้องมีการรับลูกน้องเข้าทำงาน ให้ดูบุคลิกลักษณะให้เหมาะสมกับงานที่ได้รับมอบหมาย พึงระลึกเสมอถึงกฎแห่งความปลอดภัย โดยเฉพาะผู้ที่จะมาทำหน้าที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับการเงินของบริษัท ควรตรวจสอบให้ดูถ้วนที รวมทั้งตรวจสอบประวัติในการงาน และควรติดกล้องวงจรปิดให้อยู่ที่พื้นที่บริเวณปลอดภัยที่สามารถสอดส่องการทำงานที่ได้อย่างทั่วถึง ควรจัดเก็บของมีค่าควรจัดเก็บไว้ในที่ปลอดภัย มิฉะนั้นท่านอาจสูญเสียทรัพย์สินได้ สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา