บุกรวบ รรท. “ปลัดเทศบาลฯ” คาโต๊ะทำงาน หลังเรียกรับเงินลูกจ้าง จนทนไม่ไหวร้องตำรวจเข้าช่วยเหลือ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม ป.ป.ท. บุกรวบ รรท. “ปลัดเทศบาลฯ” คาโต๊ะทำงาน หลังเรียกรับเงินลูกจ้าง จนทนไม่ไหวร้องตำรวจเข้าช่วยเหลือ

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป., พ.ต.ท.สุชาติ พลเมืองดี รอง ผกก.4 บก.ปปป., พ.ต.ท.ไสว จันทร์มา , พ.ต.ท.อำนวย วิชิตโสภณ และ พ.ต.ต.อัครพล ปัทมานุสรณ์ สว.กก.4 บก.ปปป.

ร่วมกันจับกุม พันจ่าเอก ชัยยาฯ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.6/2567 ลง 21 มี.ค.2567 โดยกล่าวหาว่า “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด”

พร้อมตรวจยึดของกลาง ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ฉบับ เป็นเงินจำนวน 5,000 บาท วางอยู่ที่โต๊ะทำงานของรองปลัดเทศบาลตำบลหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนเข้าทำการจับกุม

สถานที่จับกุม เทศบาลตำบลหล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ พฤติการณ์ ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปปป.นำทีมงานออกสืบสวน กรณีมีการเรียกรับสินบนจากการรับสมัครบุคคลจ้างเข้าทำงานของหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้ทำการจับกุมตัว พันจ่าเอก ชัยยาฯ หลังจากมีผู้เสียหายหลายรายออกมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ บก.ปปป. ให้ทำการตรวจสอบกรณีเรียกรับผลประโยชน์ จากการรับสมัครบุคคลจ้างเข้าทำงานภายในหน่วย โดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการขณะรับเข้าทำงาน คิดราคาต่อคน คนละ 20,000 บาท

จนกระทั่งมีการสืบสวนสอบสวน และพบว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จริง ปัจจุบันยังคงทำอยู่ประจำ ไม่เกิดความสำนึกหรือเกรงกลัวต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. จึงขอหมายจับต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ.6/2567 ลง 21 มี.ค.2567 ก่อนวางแผนเข้าจับกุมตัว พร้อมตรวจยึดธนบัตรฉบับละ1,000บาท ที่เป็นเงินค่าหัวคิว รวมจำนวน 5,000 บาท ที่ตกลงกันไว้วางอยู่คาโต๊ะทำงานของรองปลัดเทศบาลตำบลหล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจค้นหลักฐานและเอกสาร ไปตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ที่ บก.ปปป. ก่อนส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ดำเนินคดีต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นเรื่องดังกล่าวและเชื่อว่าเป็นการเมืองภายใน ปัจจุบันตนรักษาราชการในตำแหน่งปลัดเทศบาลอำเภอหล่มเก่า และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ซึ่งหลังจากนี้ก็เตรียมยื่นขอประกันตัวและเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. เปิดเผยว่า นอกจากสามารถจับกุมตัว ผู้ต้องหาตามหมายจับแล้ว ยังได้ตรวจยึดเอกสารและพยานหลักฐานต่างๆ ในห้องทำงานของรองปลัดได้จำนวนหนึ่งซึ่งมีประโยชน์และยืนยันว่าจะสามารถสืบสาวราวเรื่องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้อีกอย่างแน่นอน โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ มูลค่าทรัพย์ที่เป็นเงินสินบน คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 20,000 บาท โดยอาจฟังดูไม่มาก แต่สำหรับผู้ที่ได้รับรายได้รายวัน ถือว่าเป็นเงินที่มีจำนวนค่อนข้างมาก ถือเป็นการขูดรีดที่โหดร้ายเหมือน “ขูดเลือดปู” เพราะหากจ่ายเงินส่วนนี้ไปแล้ว การได้เข้าทำงานก็จะได้รับค่าจ้างโดยประมาณวันละ 300 บาทเท่านั้น คิดรวมทั้งเดือนไม่เกิน 10,000 บาท กลับกลายเป็นว่า ต้องมานั่งทำงานฟรีถึงสองเดือน อย่างไร้เหตุผล การกระทำดังกล่าวนี้เกิดอยู่ในหลายหน่วยงานเท่าที่ได้รับร้องเรียนมา ซึ่งจะได้สืบสวนจับกุมต่อไป โดย บก.ปปป. ไม่สามารถปล่อยให้บุคคลจำพวกนี้ลอยนวลอยู่ได้ในสังคม

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เตือนภัย หากพบมีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถแจ้งมายังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โทร. 02-1919191 สายด่วน ป.ป.ช. 1205 (สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ), สายด่วน ป.ป.ท. 1206 (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) และ สายด่วน ป.ป.ง. โทร. 02-2193600 (สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน)