รวบสาวเปิดบัญชีม้า ชวนหลอกลงทุนเพจปลอม King Power สูญเงินกว่าครึ่งล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสาวเปิดบัญชีม้า ชวนหลอกลงทุน เพจปลอม King Power สูญเงินกว่าครึ่งล้าน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชังสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบกป.,ว่าที่ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง, พ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น,พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ รอง ผกก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม น.ส.อมรรัตน์ฯ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 184/2566 ลงวันที่ 15 พ.ย.2566 โดยกล่าวหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ” สถานที่จับกุม บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังถูกหลอกให้ลงทุน และให้โอนเงินหลายครั้ง เบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายกว่าครึ่งล้าน โดยคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน ตุลาคม 2565 ผู้เสียหาย พบเฟซบุ๊กชื่อ “หาเงินออนไลน์วันละ 300-3,000 บาทต่อวัน” ซึ่งตั้งค่าสาธารณะ ให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ผู้เสียหายเกิดความสนใจ จึงกดลิงค์เข้าไปเพื่อสมัครและลงทะเบียน ก่อนจะให้ติดต่อกับบัญชีผู้ใช้ไลน์ชื่อ “ฝ่ายบริการ วรรจชนก” แจ้งให้ผู้เสียหายสมัครเป็นสมาชิกเข้าเพจ KING POWER (มาทราบภายหลังว่าเป็นเพจปลอม) และให้กรอกข้อมูลตามขั้นตอนที่แจ้งไว้ จากนั้นจะส่งแผนใบประกันสินค้าให้ผู้เสียหายเลือกซื้อ และให้จ่ายเงินตามที่เลือกซื้อ โดยในใบแผนประกันสินค้าแจ้งว่ามีค่าคอมมิชชั่น ตามแผนต่าง ๆ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไปจ่ายค่าแผนรายการสินค้าตามที่คนร้ายกล่าวอ้าง หลังจากผู้เสียหายโอนเงินเรียบร้อย ผู้ใช้ไลน์ดังกล่าว แจ้งให้ผู้เสียหายรอเตรียมถอนเงิน แต่เมื่อถึงกำหนดที่นัดถอนเงิน กลับมีข้อความแจ้งว่า “คำสั่งเกินเวลาที่กำหนด” ระบบการโอนเงินอัตโนมัติล็อค และให้ยื่นเรื่องปลดล็อคโอนเงินอัตโนมัติ 2 ครั้ง โดยให้โอนเงินมาเพิ่มจึงจะสามารถถอนเงินได้ ผู้เสียหายหลงเชื่ออีกครั้ง จึงโอนเงินเพื่อปลดล็อค พอผู้เสียหายโอนเงินเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ไลน์ดังกล่าวส่งข้อความมาอีกว่ามีค่าดำเนินการ ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินไปอีกครั้ง แต่ยังไม่สามารถปลดล็อคได้ และได้หลวมตัวโอนค่าปลดล็อคอีกหลายครั้งไปเรื่อย ๆ มารู้ตัวอีกทีใน 6 วัน โอนเงินไปกว่า 7 ครั้ง รวมจำนวนกว่า 600,000 บาท ครั้งนี้ทำให้ผู้เสียหายเริ่มสงสัย กระทั่งสุดท้ายไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีก รู้ตัว่าถูกหลอก จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ติดตามดำเนินคดีกับน.ส.อมรรัตน์ ฯ ซึ่งเป็นบัญชีปลายทางที่ผู้เสียหายโอนเงินไป ก่อนที่จะมีการออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้เอาไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนติดตาม จนทราบว่า น.ส.อมรรัตน์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัว น.ส.อมรรัตน์ฯ ได บริเวณปั๊มน้ำมันดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนังกงานสอบสวน สภ.รำมะสัก จ.อ่างทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนทำอาชีพขายของออนไลน์ และมีคนให้รู้จักมาขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคารให้เพื่อเลี่ยงภาษีเท่านั้น รายละเอียดอื่นๆตนไม่ทราบเรื่อง