AOC คืนเงินผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท หลังพบเงินเข้าบัญชีม้า สกัดทันก่อนโอนออก พร้อมหารือเดินหน้าปราบแก๊งโจรออนไลน์
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ AOC ร่วมประชุมและร่วมหารือมาตรการป้องกันภัยมิจฉาชีพออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด และตัวแทนธนาคาร โดยมีคุณกฤษณ์ ไพโรจน์กีรติกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายกลุ่มป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ของธนาคารกรุงไทยเข้าร่วมประชุมด้วย
โดยภายหลังการประชุม คุณกฤษณ์ฯ ได้นำเช็คเงินสด มูลค่า 2,010,000 บาท มามอบคืนให้ผู้เสียหาย โดยผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ AOC เพื่อนำส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เจ้าของคดี นำกลับคืนสู่ผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายอยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกเดินทางมารับมอบด้วยตนเอง
ทั้งนี้คดีดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 ก.พ.67 ผู้เสียหาย เป็นชายวัย 50 ปี ได้รับข้อความผ่านทาง sms อ้างเป็นการไฟฟ้าฯ บอกจะคืนเงินค่ามิเตอร์ให้ ก่อนจะให้เเอดไลน์ อ้างว่าให้พูดคุยกับพนักงาน ระหว่างพูดคุยกันอยู่นั้น ทางคนที่อ้างเป็นพนักงานก็ให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพื่อกรอกข้อมูลสำหรับรับเงินค่ามิเตอร์คืน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อกดดาวน์โหลดแอปฯดังกล่าว ซึ่งเป็นการติดตั้งแอปพลิเคชันการควบคุมระยะไกล หรือแอปรีโมท ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ AOC ของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร จะติดต่อมาบอก ผู้เสียหายจึงทราบว่ามียอดเงินโอนออกไปจากบัญชีตนเอง เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท
ด้านคุณกฤษณ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ผู้บริหารฝ่ายกลุ่มป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ของธนาคารกรุงไทยระบุว่า มีการทำงานประสานกับศูนย์ AOC ในความรับผิดชอบของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกันเสมอ ทำให้มีการเฝ้าสังเกตบัญชีม้าต้องสงสัยอยู่แล้ว เมื่อพบว่ามียอดเงินโอนเข้ามาโดยผิดปกติ ทางธนาคารจึงอายัดบัญชีดังกล่าวทันที พร้อมทั้งประสานไปยังศูนย์ AOC ในความรับผิดชอบของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อรีบติดต่อผู้เสียหายภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที ทำให้ผู้เสียทราบเรื่องและเข้าแจ้งความตามกระบวนการ และวันนี้ได้นำเช็คเงินสดมามอบคืนให้กับผู้เสียหายดังกล่าว
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอฝากเตือนประชาชนว่าทางรัฐบาล, ศูนย์ AOC, ธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศ, ป.ป.ง. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการทำงาน ประสานข้อมูลร่วมกันอย่างเข้มงวดและจริงจังในการปราบอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ เพื่อบรรเทาความเสียหายให้กับประชาชน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือทุกคนต้องมีสติ อย่ากดลิงก์ ดาวน์โหลด หรือหลงโอนเงินให้มิจฉาชีพ ซึ่งจะเป็นการป้องกันความเสียหายที่ดีที่สุด