ดส.-สน.ชนะสงคราม รวบชาวแอลจีเรียฉกพระเครื่องร้านทอง มูลค่ากว่า 2 หมื่นบาท

พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น., พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์, พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รองผกก.ดส.บช.น.พ.ต.ท.จักรี นารีผล สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 1 ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR.GAROU สัญชาติ แอลจีเรีย อายุ 56 ปี

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 14.30 น. น.ส.สมัชญา ได้ทำการเปิดร้านทองรูปพรรณชื่อร้านย่งเช้งเฮง ถ.พระสุเมรุ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ต่อมาได้มีชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ สัญชาติ มาขอซื้อทองรูปพรรณภายในร้าน แต่ไม่เอา จากนั้นผู้แจ้งได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ปรากฎว่าชายดังกล่าว ได้หยิบทรัพย์สินภายในร้านไปและพบว่า พระเครื่อง (พระคำข้าว) เลี่ยมทองคำ ๑ องค์ มูลค่าประมาณ 20,000 บาท หายไป

ต่อมา น.ส.สมัชญา ผู้เสียหาย จึงได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี ที่ สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.ดส.บช.น.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สส.สน.ชนะสงคราม ได้ทำการติดตามจับผู้กระทำความผิด พบชายชาวต่างชาติ รูปพรรณตามที่ปรากฎภายในภาพกล้องวงจรปิด จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ทราบชื่อ Mr.GAROU (ผู้ต้องหา) จากนั้นจึงได้เรียกผู้เสียหายมาเพื่อยื่นยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ปรากฏตามภาพที่ได้จากกล้องวงจรปิดหรือไม่

ต่อมา น.ส.สมัชญา (ผู้เสียหาย) ได้มายืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกันกับที่มาขอติดต่อซื้อทองคำรูปพรรณในวันเกิดเหตุและเป็นคนที่หยิบพระเครื่องไปจริง จากการสอบถาม Mr. GAROU ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านล่ามแปลภาษาว่า ตนเป็นบุคคลเดียวกันกับ ภาพที่ปรากฏภายในกล้องวงจรปิดและได้หยิบพระเครื่องดังกล่าวไปจริง และยินยอมที่จะนำเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจค้น ในโรงแรม Wonderful Hostel Khaosan ถ.พระสุเมรุ แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม.

จากการตรวจค้นพบ ของกลาง ซุกซ่อนอยู่ ช่องเก็บของด้านหน้า ในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินที่อยู่ใต้เตียงภายในห้องพักที่ผู้ต้องหานำเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้น จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นทรัพย์สินที่ตนหยิบมาจากร้านย่งเช้งเฮง เมื่อวันที่ 15 ก.พ.67 จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจคันจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบตลอดดีแล้ว จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ถูกจับไปยัง กก.ดส. เพื่อทำบันทึกจับกุม และนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป