ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่ม รปภ. บัญชีม้า หลอกลงทุนออนไลน์ เหยื่อสูญนับล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบหนุ่ม รปภ.เปิดบัญชีม้า หลอกลงทุนออนไลน์ เหยื่อสูญนับล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.

​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่ รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.

​ร่วมกันจับกุม นายบวรพจน์ฯ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1091/2565 ลงวันที่ 15 ธ.ค.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายที่มิได้กระทำต่อประชาชน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าหมู่บ้านในพื้นที่ ต.บางนาง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

​พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาเฝ้าระวังของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการหลอกลงทุน โดยผู้ต้องหารายนี้พฤติการณ์ได้อยู่ในขบวนการหลอกลงทุน โดยได้มีการชักชวนเหยื่อด้วยกลอุบายต่างๆ เช่น การใช้ไลน์ปลอมเป็นหญิงสาวโดยอ้างกับเหยื่อว่าเป็นผู้แนะนำการลงทุน พูดจาหว่านล้อมแนะนำการลงทุน โดยการันตีผลตอบแทนสูงภายในระยะเวลา 5 – 20 นาที จึงทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อ สูญเงินเป็นจำนวนเกือบล้านบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้ ได้หลบหนีมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุม และได้แสดงหมายจับให้ทราบพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ​สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การว่า ผู้ต้องหาได้ขายบัญชีธนาคารมากกว่า 5 บัญชี ให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

เตือนภัย ปัจจุบันมีการหลอกลวงลงทุนในหลายรูปแบบ ซึ่งมักแอบอ้างธุรกิจและให้ผลตอบแทนสูง, มีการสร้างความน่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ยาก ซึ่งก่อนลงทุนควรตรวจสอบธุรกิจต่างๆ ด้วยความรอบคอบ หากมีการจดทะเบียนบริษัท สามารถตรวจสอบได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหากมีการอ้างบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือผู้แนะนำการลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนเกี่ยวกับหุ้น สามารถตรวจสอบได้กับสำนักงาน ก.ล.ต. และ บริษัทที่ประกอบธุรกิจรักษาความปลอดภัย ก่อนรับพนักงานเข้าทำงานต้องตรวจสอบประวัติผู้ที่มาสมัครงานอันเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากท่านมีเบาะแสในเรื่องการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงหรือน่าเชื่อว่าเป็นเพจปลอมเกี่ยวกับการลงทุน สามารถแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งเบาะแสมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง