ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นใช้มาตรการทางกฎหมาย เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ประกอบกับนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มุ่งเน้นให้เดินหน้าเชิงรุกปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลการทุกเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับ รวมทั้งสืบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้ายาเสพติด รวมทั้งผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ
วันนี้ 19 ก.พ.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญนวลมา, พล.ต.ท.นิรันดร์ เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.,พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล, พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส.และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงการจับกุมนักบิน 6 เครือข่าย 6 คดี ได้ผู้ต้องหารวม 17 คน ตรวจยึดยาบ้ารวมจำนวน 12,119,600 เม็ดยึดทรัพย์สินเครือข่าย 7 รายการ มูลค่า 2,917,550 บาท
คดีแรก สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ปส.1 รับแจ้งจากสายลับมีกลุ่มเครือยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ อดีตนักโทษคดียาเสพติด จะขึ้นไปรับยาเสพติดทางภาคเหนือมาจำหน่ายในพื้นที่ กทม. และ อำเภอหาดใหญ่ จว.สงขลา โดยใช้รถ 3 คัน ในการลำเลียงครั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าขบวนรถทั้งหมดจะไปรับยาเสพติดบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ และกำลังเดินทางกลับ กระทั่งกลางดึกของวันที่ 7 ก.พ.67 ชุดจับกุมตรวจพบรถเป้าหมายจอดอยู่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร จว.กำแพงเพชร จึงเฝ้าติดตามจนข้ามไปช่วงสายของอีกวันหนึ่ง รถทั้ง 3 คัน คือ รถฮอนด้า ซีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน 8 กฐ 16xx กรุงเทพมหานคร ขับรถไปหารถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผผ 377 สงขลา และ รถกระบะ หมายเลขทะเบียน กบ 5921 เพชรบุรี จึงได้ขับไปรวมตัวกันยังจุดนัดหมาย ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นโดยมีนายสัญญา หรือตูน นาคะโร, นายปิติ หรือเจ๋ง แซ่ฉั่ว และนายนครินทร์ หรือเอ็ม อินทสาร เป็นคนขับรถทั้งหมด เบื้องต้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในรถฮอนด้า ซีอาร์วี สีดำ จำนวน 755,600 เม็ด ส่วนรถอีก 2 คัน ทำหน้าที่เป็นรถนำ และรถคุ้มกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างออกหมายจับ ผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด
คดีที่ 2 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ได้สืบสวนติดตามกลุ่มเครือข่ายที่มีพฤติการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ จนพบว่ามีเครือข่ายนายยอดชาย อนุวรรณ มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ ต่อมาช่วงบ่ายวันที่ 7 ก.พ.67 รับแจ้งว่ากลุ่มเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จว.นครพนม เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังออกไปตรวจสอบตามเส้นทางที่ได้รับแจ้งและพื้นที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางในการลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ กระทั่งเวลา 18.00 น. ของวันเดียวกัน พบรถตรงตามที่รับแจ้งขับขี่อยู่บนถนนสาย 2094 บริเวณบ้านข้าวแป้ง ต.วาใหญ่ อ.อากาศอำนวย จว.สกลนคร จนขับมาถึงบริเวณสะพานข้ามลำน้ำพุง ต.เต่างอย อ.เต่างอย จว.สกลนคร เจ้าหน้าที่พบมีการชะลอความเร็ว ชุดจับกุมจึงได้เข้าแสดงตัวและขอตรวจสอบรถ 2 คัน ทันที ระหว่างนั้น คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 3กช 5xx กรุงเทพมหานคร ได้ขับรถพุ่งชนรถตำรวจชุดจับกุมและขับหลบหนีไป ก่อนจะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณท้ายหมู่บ้านจันทร์เพ็ญ ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จว.สกลนคร คือนายอภิสิทธิ์ ดวงสุ ตรวจค้นรถพบยาซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสารของ รวม 4,000,000 เม็ด ขณะที่รถอีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ หมายเลขทะเบียน 70xx ภูเก็ต มีนายยอดชาย อนุวรรณ เป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.ต้า โพทิลาด สัญชาติลาว นั่งโดยสารมาด้วย
คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.67 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับ บก.ขส. ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีเครือข่าย “ปลาส้มศรีสงคราม” ซึ่งเป็นกลุ่มนายสมพงษ์ พูลเกษม มีความเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จว.นครพนม โดยจะนำรถยนต์ฮอนด้า Accord สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎถ 21xx กรุงเทพมหานคร เข้าไปลำเลียงยาเสพติด กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 10 ก.พ.67 พบรถเป้าหมายอยู่บน ถนนภูพาน-สมเด็จ พื้นที่ จว.สกลนคร ต่อเนื่อง จว.กาฬสินธุ์ จึงกระจายกำลังเฝ้าติดตามในเส้นทางที่คาดว่ารถจะผ่านบนถนน หมายเลข 213 อ.ภูพาน – อ.สมเด็จ – อ.เมือง – อ.ยางตลาด จว.กาฬสินธุ์ – อ.กันทรวิชัย – อ.เมืองมหาสารคาม – อ.บรบือ – อ.กุดรัง จว.มหาสารคาม เมื่อรถมาถึง พื้นที่ อ.หนองสองห้อง จว.ขอนแก่น รู้ตัวว่าถูกติดตาม จึงได้พยายามเร่งความเร็วหลบหนี จนมาจับจับกุมตัวได้บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 81 ม.8 ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จว.ขอนแก่น ทราบชื่อคือ นายสมพงษ์ พูลเกษม ตรวจค้นรถพบยาบ้า 524 ก้อน บรรจุอยู่ในกระสอบ ซุกซ่อนอยู่ในห้องโดยสาร และกระโปรงท้ายรถ รวม 12 กระสอบ รวมยาบ้าทั้งหมด 5,240,000 เม็ด
คดีที่ 4 จากการสืบสวนของ ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบมีเครือข่ายผู้ค้าและลำเลียงยาเสพติด เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อาข่า จากชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย จะลำเลียงยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่ชายแดนเข้ามายังพื้นที่ตอนในของ จว.เชียงราย โดยจะนำมาพักไว้ในพื้นที่ ต.แม่ยาว กระทั่งบ่ายวันที่ 3 ก.พ.67 ตำรวจพบรถยนต์เป้าหมายขับจากสี่แยกห้วยปลากั้ง มุ่งหน้าหมู่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย และขับออกจากพื้นที่โดยใช้ถนนเส้นทาง ดอยฮาง – แยกฮ่องอ้อ และอยู่บนถนนบายพาสรอบเมืองเชียงราย ก่อนจะขับไปจอดที่ไหล่ทางถนนของถนนหน้าสนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย โดยพบรถอีกหนึ่งคันจอดอยู่ด้านหน้าและรถทั้งสองคันขับออกจากบริเวณดังกล่าว ตามกันไปในลักษณะนำทางตลอดเส้นทาง ชุดจับกุมจึงแบ่งกำลังติดตาม กระทั่งรถทั้งสองคันเลี้ยวซ้ายที่แยกต่างระดับขัวไชยนารายณ์ ขับไปตามถนน เชียงราย-เทิง ชุดจับกุมจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยบริการประชาชน ห้วยสัก ของ สภ.เมืองเชียงราย ให้ช่วยหยุดรถเป้าหมายขณะทำการตั้งตรวจตรวจบริการประชาชน พบ นายบัญชา แช่เท้า ขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ผธ ๕๗xx เชียงราย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกชุดได้ติดตามรถอีกคันคือรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บล 42xx ลำปาง สกัดจับไว้ได้ขณะจอดบริเวณไหล่ทางก่อนถึงตัวตลาดสดห้วยสัก พบ นายธวัชชัย สวาทชาติ เป็นคนขับ ตรวจค้นในห้องโดยสารรถ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหลังรวม 1,000,000 เม็ด
คดีที่ 5 ก่อนการจับกุม ตำรวจ บก.สกส.ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มเครือข่ายมักลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จว.แพร่ และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งจะใช้เส้นทาง ต.แม่ยาว – เมืองเชียงราย – อ.ป่าแดด จว.เชียงราย – จว.พะเยา – จว.แพร่ ในการลำเลียง กระทั่งกลางดึกของวันที่ 6 ก.พ.66 ชุดจับกุมสามารถสกัดจับรถเครือข่าย 2 คัน ได้บริเวณป้อมตำรวจป่าแดด ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด จว.เชียงราย คือ หมายเลขทะเบียน กต 96xx เชียงราย ใช้ลำเลียงยาเสพติด และ รถหมายเลขทะเบียน ขค 93xx เชียงราย ใช้นำทาง/สำรวจเส้นทาง จับผ็ต้องหาได้ 4 คน คือ นายเมืองชัย สุธรรม / น.ส.นามิอือ แอะอู / นายธนวัฒน์ ศักดิ์ศรีชมพู และ นายอำนวย จะซือ ส่วนยาบ้าพบซุกซ่อนภายในช่องว่างใต้เบาะที่นั่งและด้านหลังพนักพิงผู้โดยสารแถวหลังของรถ จำนวน 50 มัด รวม 100,000 เม็ด จากนั้นขยายผลคุมตัวไปตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ในซอย หมู่บ้านนอร์ทเทิร์น ซึ่งเป็นของ นายธนวัฒน์ พบทรัพย์สินรวม 7 รายการ อาทิ อาวุธปืนพกสั้น เครื่อง กระสุน รถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ 2,917,550 บาท
คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.67 ตำรวจ กก.1 บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส. และตำรวจ สภ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี จับกุม 4 ผู้ต้องหา 4 คน คือ นาย สาโรจน์ เหมพิทักษ์/ นายแรนันต์ ละใบ/ นายบุขฆอรี่ เจะหมีน และ นายมานพ หมันเร๊ะ หลังเครือข่ายนี้ได้ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือตอนบน และนำมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้รถตู้หมายเลขทะเบียน 1 นจ 90xx กรุงเทพมหานคร ในการซุกซ่อนลำเลียง และขับขี่มาตามเส้นทาง ต.ตับเต่า อ.เทิง จว.เชียงราย ต่อเนื่อง จว.กำแพงเพชร -จว.นครสวรรค์-จว.อุทัยธานี – จว.สุพรรณบุรี – จว.นครปฐม – จว.สมุทรสาคร – จว.เพชรบุรี – ลงในยังพื้นที่ภาคใต้ จนจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้บริเวณหน้าสถานีตำรวจ สภ.ด่านช้าง จว.สุพรรณบุรี พร้อมยาบ้า 1,040,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณหลังคารถตู้ซึ่งดัดแปลงเป็นช่องลับ
สำหรับเดือน 1 ตุลาคม 2566 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ 99 คดี ผู้ต้องหา 170 คน ของกลาง ยาบ้า 132,494,672 เม็ด, ไอซ์ 2,892.26 กก. เฮโรอีน 79.47 กก. ,โคเคน 18.97 กก. และคีตามีน 1,201.22 กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 606 ล้านบาท