ผบช.ภ.4 เปิดอบรมหลักสูตรการสืบสวนคดียาเสพติดเฉพาะทาง “นักสืบ 5G P4+1” สร้างนักสืบปราบยาเสพติดภาค 4

ผบช.ภ.4 เปิดอบรมหลักสูตรการสืบสวนคดียาเสพติดเฉพาะทาง “นักสืบ 5G P4+1” สร้างนักสืบปราบยาเสพติดภาค 4

เมื่อวันที่ 12 ก.พ.67 เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.ท.สรายุทธ  สงวนโภคัย  ผบช.ภ.4 ได้เป็นประธาน   เปิดการฝึกอบรม โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสืบสวนคดียาเสพติดเฉพาะทาง “นักสืบ 5G P4+1” ณ โรงแรมอวานี ขอนแก่นโฮเทล แอนด์คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จังหวัดขอนแก่น โดยมี พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 และ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4 ร่วมในพิธีเปิด

โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสืบสวนคดียาเสพติดเฉพาะทาง “นักสืบ 5G P4+1” เป็นการฝึกอบรมโดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกิจการยาเสพติดและการบังคับใช้กฏหมายระหว่างประเทศ สถานฑูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย (International Narcotics and Law Enforcement – INL) โดยมุ่งเน้นการเตรียมบุคลากรให้เท่าทันกับรูปแบบอาชญากรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะการสืบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงและการรวบรวมพยานหลักฐานของการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งจะต้องมีการเรียนรู้แนวทางการสืบสวนที่ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีผู้เข้ารับการอบรมจำนวน 100 นาย ประกอบด้วย หน่วยที่ปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติด ทั้งหน่วยปฏิบัติงานหลักในตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 90 นาย และ หน่วยปฏิบัติงานหลักภายนอกตำรวจภูธรภาค 4 คือ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จำนวน 7 นาย นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากหน่วยสนับสนุนคือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ส่งผู้เข้าร่วมอบรม จำนวน 3 นาย ทำการอบรมตั้งแต่ 12 – 25 ก.พ.67 รวม 14 วัน

 ในการฝึกอบรมผู้เข้ารับการอบรม จะได้เรียนรู้การสืบสวนสมัยใหม่ อาทิ การสืบสวนทางเทคโนโลยี  การสืบสวนจากเส้นทางการเงิน การสืบสวนติดตามทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด การสืบสวนทางดิจิตอล ซึ่งจะได้รับการถ่ายทอดจากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาให้การถ่ายทอดทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้ารับการอบรมจะได้ฝึกทักษะการสืบสวนคดียาเสพติดที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงการฝึกยุทธวิธีในการสืบสวนคดียาเสพติดต่าง ๆ เช่น การปิดล้อมตรวจค้น การจับกุม การขับรถไล่ล่ารถต้องสงสัย รถที่ผู้ต้องหาขับขี่ หลบหนี การสกัดจับหยุดรถต้องสงสัย การวางแผนล่อซื้อ จับกุม เป็นต้น  เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจและสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้โครงการยังมุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการอบรม รู้เท่าทันต่อสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนจากการทำธุรกรรมแบบเดิมเป็นการทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือการใช้ระบบไอที เข้ามาอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน   มากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ฉะนั้น ผู้เข้ารับการอบรมจะต้องเชี่ยวชาญการใช้เครื่องมือพิเศษ และเทคโนโลยี การสืบสวน ขยายผลถึงกระบวนการค้ายาเสพติด และพัฒนาทักษะ ความชำนาญในการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยหลักสูตรจะมีการถอดบทเรียนจากการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและสูญเสีย นำมาถ่ายทอดให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม และสอนยุทธวิธีในการจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ อีกด้วย

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ตำรวจภาค 4 ได้จัดทำขึ้นเพื่อสนองนโยบายรัฐบาล ในเรื่องการปราบปรามและการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งทางรัฐบาลได้เลือกจังหวัดนครพนม เป็นพื้นที่ปกครองพิเศษ ที่จะต้องดำเนินการสกัดกั้นการลำเลียง เป็น Pilot Project

ตำรวจภาค 4 จึงได้จัดการอบรมนักสืบ 5G P.4 + 1 เพื่อรองรับการสกัดกั้นยาเสพติดโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และการพัฒนา สามารถนำไปใช้งานได้จริง และสามารถร่วมทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส. หรือ บช.ปส.

หลักสูตรนี้ เป็นการหล่อหลอม ประสบการณ์ของนักสืบรุ่นเก่า นำมาถ่ายทอดบทเรียนที่ผ่านมา ประกอบกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสืบสวนสอบสวนทางอากาศ อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย โดยจับกุมผู้ต้องหาและปราบปรามให้สิ้นซาก นอกจากนี้ ยังเป็นการรวบรวมนักสืบรุ่นใหม่ ทั้ง 12 จังหวัด และ บก.สส. เข้ามาหล่อหลอมให้เกิดการทำงานร่วมกัน เพื่อเกิดเป็นมิติใหม่ของตำรวจภาค 4 ซึ่งมิตินี้ได้ขาดหายไป จึงได้ให้ บก.สส.ภ.4 ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการ จัดทำโครงการขึ้นมา เพื่อระดมนักสืบภาค 4 ทั้งหมดเพื่อมาปราบปรามและการสกัดการลำเลียงยาเสพติด  ผบช.ภ.4 กล่าวในที่สุด