จับกุมนายทุนกว้านซื้อที่ป่าสงวนปลูกยางพารา อ้างถูกอดีตกำนันหลอกขายอีกทอดหนึ่ง

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนายทุนกว้านซื้อที่ป่าสงวน ปลูกยางพารา อ้างถูกอดีตกำนันหลอกขายอีกทอดหนึ่ง

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) โดย กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อริยพล  สินสอน, พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน, พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส., พ.ต.ท.พรเทพ ชุมแสง รอง ผกก.5 บก.ปทส.         

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ รอง ผกก.5 บก.ปทส., ร.ต.ต.ภิเศก บำรุงกิจ, ร.ต.ต.ประโยชน์ ไกรนรา รอง สว.กก 5 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปทส.

ร่วมกันจับกุม นายปรีชาฯ อายุ 67 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.330/2558 ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2558 โดยกล่าวหากระทำความผิดฐาน “ก่นสร้าง แผ้วถาง บุกรุก หรือยึดถือครอบครอง เข้าทำประโยชน์พื้นที่ป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และบุกรุก ก่นสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมสภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าไปยึดครอง รวมตลอดถึงก่นสร้าง หรือ เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน” สถานที่ตรวจยึด ที่ดินติดอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ม.7 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนมิถุนายน 2558 นายปรีชาฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นนายทุนในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้ามาบุกรุก แผ้วถาง ตัดไม้ และปรับพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพาราในเขตอุทยานไทยประจัน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ราชบุรี ได้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวไว้ประมาณ 53 ไร่ และเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฏหมาย ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหา จนทราบว่าปัจจุบันผู้ต้องหานี้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาให้การเพิ่มเติมว่าเมื่อประมาณต้นปี พ.ศ.2558 ได้มีอดีตกำนัน ต.ห้วยยางโทน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ติดต่อมาหาตนเพื่อขายที่ดินแปลงดังกล่าวให้ตน โดยอดีตกำนันแจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่อยู่ในเขตอุทยาน สามารถเข้าไปทำมาหากินปลูกต้นไม้ได้  ตนจึงได้ซื้อไว้เพื่อปลูกยางพารา แต่ต่อมาภายหลังตนเองทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปตรวจยึดที่ดินดังกล่าวไว้และแจ้งว่าเป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวน ตนจึงเชื่อว่าตนเองถูกอดีตกำนันคนดังกล่าวหลอกให้ซื้อที่ดิน ทำให้ตนสูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้ตนยังยอมรับผิดที่ไม่ได้ดูเอกสารที่ดินก่อนที่จะตัดสินใจซื้อที่ดินจากอดีตกำนันคนดังกล่าว

เตือนภัยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชน ก่อนที่จะทาการซื้อที่ดิน ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนทำการซื้อขายที่ดิน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อตนเองและภาครัฐ